วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เทคนิคการแต่งคอนโดสวย กลิ่นอายทะเล



พอเข้า หน้าร้อนทีไร หลายคนก็อยากจะลุกขึ้นมาแต่งตัวให้สดใสและห้องให้สวยรับซัมเมอร์กันแล้วใช่ ไหมครับ วันนี้จึงขอนำเสนอไอเดียแต่งคอนโดฯ กลิ่นอายทะเล เพื่อให้คุณได้เตรียมตัวรับลมร้อนกันด้วยความสดใสเริงร่าครับ

เมื่อ พูดถึง "ทะเล" สิ่งที่หลายๆ คนนึกถึงมักจะเป็น หาดทราย ฟ้าคราม และน้ำทะเล ใช่ไหมครับ ดังนั้น สีฟ้า-ขาว จึงกลายเป็นคู่สีที่นิยมในการตกแต่งเพื่อสร้างบรรยากาศให้มีกลิ่นอายทะเล โดยสีขาวช่วยถ่ายทอดความรู้สึกเรียบง่ายเบาสบายเป็นธรรมชาติประหนึ่งสีของ หาดทรายขาวเนื้อละเอียด ส่วนสีฟ้าก็เป็นสีโทนเย็นให้สัมผัสถึงน้ำทะเลและท้องฟ้ากว้าง ช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย



การ ตกแต่งห้องสไตล์นี้ มักเน้นความเรียบง่ายทั้งในด้านของสีสันและวัสดุ เพราะแรงบันดาลใจในการตกแต่งนั้นอิงกับธรรมชาติ เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้จึงมักเป็นโทนสีขาวหรือสีไม้ธรรมชาติ สำหรับห้องนอนจึงอาจใช้เลือกใช้เป็นเตียงนอนและตู้เสื้อผ้าที่โดดเด่นในโทน สีขาวดีไซน์เรียบง่าย ซึ่งเมื่อนำมาแต่งผสมกับองค์ประกอบอื่นๆ ของห้อง เช่น กรอบรูป โคมไฟ พรม ในโทนสีฟ้า ก็ยิ่งเข้ากับบรรยากาศสบายๆ ริมทะเล ได้เป็นอย่างดีครับ



สำหรับ ห้องนั่งเล่น อาจคุมธีมเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักให้อยู่ในโทนสีขาวเพื่อช่วยเพิ่มความสว่างไสว ในบรรยากาศทะเลให้ห้อง ส่วนชุดโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์อาจเลือกใช้เป็นโทนสีขาวดีไซน์ไร้มือจับให้ความ รู้สึกเรียบง่าย เติมด้วยโซฟาโทนสีฟ้าขาวหรือลาย Navy Strip แล้วเพิ่มลูกเล่นดีไซน์ด้วยการใช้ลวดลายและวัสดุที่ให้ผิวสัมผัสแบบธรรมชาติ เช่น ชั้นแขวนผนัง โต๊ะกลางสีไม้ธรรมชาติ ก็ช่วยสร้างบรรยากาศชวนพักผ่อนสบายๆ ริมทะเล ได้ดีครับ



ส่วน องค์ประกอบอื่นๆ อย่างผ้าม่าน แนะนำให้เลือกใช้แบบที่มีผิวสัมผัสนุ่มเบาบางไม่หนาทึบเพิ่มความโปร่งสบาย และเปิดรับแสงจากธรรมชาติ ที่สำคัญอย่าลืมของตกแต่งกระจุกกระจิก ซึ่งสามารถเลือกของตกแต่งสไตล์วินเทจที่มีดีไซน์กลิ่นอายทะเลมาตกแต่งได้ อย่างลงตัว เช่น โมบายเปลือกหอย, เรือใบจำลอง, หมอนอิงลายประภาคาร, ขวดแก้วหลากสี เป็นต้น เพื่อช่วยเติมเต็มบรรยากาศทะเลให้คอนโดฯ ของคุณมากยิ่งขึ้นครับ ขอให้สนุกกับการตกแต่งคอนโดฯ รับร้อนนี้กันนะครับ


วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

20 เทคนิค แต่งคอนโดเช่า ให้สวยปิ๊ง



แม้ว่าการเช่าคอนโดจะสะดวกสบายดี แถมยังเลือกทำเลที่ต้องการได้ตามใจ แต่การเช่าคอนโดก็ มาพร้อมข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะปัญหาพื้นที่จำกัด ที่ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่กล้าจัดแต่งห้องในคอนโดเช่ากันมากเท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะว่าถ้าลองเอาเทคนิคตกแต่งคอนโดเช่าที่เรารวบรวมมาฝากไปใช้กันดู ล่ะก็ รับรองว่าต่อให้มีพื้นที่จำกัดหรือมีกฎยุ่งยากสักแค่ไหน ห้องของคุณก็ดูดีขึ้นได้ โดยไม่ต้องต่อเติมให้วุ่นวายหรือผิดกฎผู้เช่าแน่นอนจ้า

1. ติดชั้นวางกรอบรูปที่ผนัง
ใช้ชั้นวางของแบบติดผนังเป็นที่วางรูปเก๋ ๆ จะช่วยให้ห้องดูมีดีเทลขึ้นอีก แถมยังทำให้รูปดูเด่นกว่าเดิมด้วย ทั้งนี้ไม่ต้องเลือกชั้นลายพร้อยจนรกตาหรอกนะ แค่แบบเรียบ ๆ แล้วให้รูปเป็นตัวสร้างสีสันก็พอแล้ว อาจจะหาซื้อชั้นติดผนังแบบที่ไม่ต้องเจาะกำแพงแทนก็ได้หากคอนโดใครไม่อนุญาต ให้เจาะ เดี๋ยวนี้ก็มีขายให้เห็นเยอะเลยล่ะ

2. ทาสีเฟอร์นิเจอร์ให้แจ่ม
ถ้าคุณไม่สามารถทาสีกำแพงได้ เพราะยุ่งยากเกินไป หรือข้อห้ามอะไรก็แล้วแต่ ก็หันมาทาสีเฟอร์นิเจอร์แทนก็ได้นี่นา หรือจะติดลวดลายเสริมเข้าไปก็เข้าท่าดีเหมือนกัน แค่นี้ก็ทำให้ห้องดูสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นทันตาเห็นแล้ว แถมยังไม่ต้องไปยุ่งกับผนังให้ผิดกฎอีกด้วย

3. เพิ่มชั้นวางของแบบตะแกรง
สำหรับคนที่มีพื้นที่ไม่พอจะเก็บของในครัวได้หมด ก็เอาชั้นวางของแบบตะแกรงไปติดเพิ่มดู รับรองว่าจะได้ที่วางของเพิ่มขึ้นอีกเยอะ โดยไม่เปลืองเนื้อที่เลยล่ะ

4. ปูพรมใหม่แทนพื้นเก่า
หลาย ๆ คนอาจต้องทนอยู่กับพื้นเดิม ๆ ของคอนโดที่ไม่สวยถูกใจ เพราะไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนพื้นใหม่ ถ้าอย่างนั้นก็เอาพรมขนาดใหญ่พิเศษมาใช้แต่งห้องกันดีกว่า โดยวางทับพื้นที่ไม่ถูกใจซะ จะได้ช่วยให้พื้นที่ดูเป็นสัดส่วน แถมดูน่ามองขึ้นได้อย่างที่ต้องการ

5. เติมสีสันให้ห้องน้ำ
ห้องน้ำเดิมในคอนโดอาจมาพร้อมสีที่คุณไม่ชอบสักเท่าไหร่ เช่น ห้องน้ำสีขาวเรียบ ๆ ที่ดูจืดชืด ซึ่งวิธีง่าย ๆ ที่จะเปลี่ยนให้ดูโดดเด่นขึ้น ก็แค่ใช้สีอื่น ๆ โดยเฉพาะสีสดใสมาเสริมเข้าไปก็พอ เท่านี้ก็เหมือนได้ห้องน้ำใหม่แล้วล่ะ วิธีนี้สามารถใช้กับสีอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกันนะคะ

6. ทำชั้นวางรองเท้าหน้าประตู
เพื่อให้โถงทางเดินของคุณดูน่าสนใจ อีกทั้งเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับชีวิตประจำวันของตัวเอง ก็ควรติดชั้นวางของไว้เก็บพวกกระเป๋า รองเท้า หรือเป็นที่วางร่มด้วยก็ดีนะคะ จะได้ไม่ต้องวางของเหล่านั้นให้เกะกะทางเดินที่คับแคบอยู่แล้วให้อึดอัดขึ้น อีก

7. ใช้กระจกตั้งพื้น
เป็นที่รู้กันดีว่ากระจกเป็นของแต่งห้องที่จำเป็นมาก เพราะช่วยสะท้อนแสงสว่างให้ห้องแคบ ๆ ดูกว้างขึ้นได้ แถมยังเป็นของใช้ในชีวิตประจำวันที่แทบทุกคนขาดไม่ได้ ดังนั้นอย่าลืมเลือกกระจกสวย ๆ มาติดเอาไว้ในคอนโด โดยเลือกกระจกตั้งพื้นที่ไม่ต้องเจาะผนังด้วยนะคะ

8. เพิ่มจุดเด่นให้โทรทัศน์
ในเมื่อโทรทัศน์เป็นแหล่งรวมความบันเทิงของทุกคน ก็ต้องให้ความสำคัญกับการตกแต่งซะหน่อย ด้วยการเอารูปภาพสวย ๆ ไปติดบริเวณนั้น เท่านี้ก็จะช่วยให้มุมโทรทัศน์ในคอนโดของคุณดูมีราคาขึ้นได้ง่าย ๆ แล้ว

9. อ่างล้างหน้าเข้ามุม
เพื่อเป็นการใช้พื้นที่แคบ ๆ ในห้องน้ำของคอนโดที่ คุณเช่าอยู่ให้คุ้มค่า ควรเอากระจกและอ่างล้างหน้าไปติดบริเวณมุมห้องดู จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้น และอย่าลืมคำนึงถึงข้อห้ามในการตกแต่งด้วยนะคะ ว่าคอนโดของใครตั้งกฎไว้แค่ไหนบ้าง

10. เฟอร์นิเจอร์โปร่งใส
หากว่าคุณมีพื้นที่จำกัด แต่อยากจัดห้องอาหารเก๋ ๆ กับเขาดูบ้าง ก็สามารถทำได้โดยใช้โต๊ะและเก้าอี้ที่เป็นแบบโปร่งใสเข้าช่วยดู จะทำให้ห้องดูปลอดโปร่งสบายตา แม้คอนโดที่เช่าอยู่จะคับแคบแค่ไหนก็ตาม

11. ชั้นวางของหลังโซฟา
แน่นอนว่าห้องรับแขกในคอนโดเป็นห้องที่มีของมากมายอยู่เต็มไปหมด เพราะเป็นห้องเดียวที่คุณจะใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ บ่อยที่สุด ดังนั้นการเอาชั้นหนังสือ หรือชั้นวางของ มาวางด้านหลังโซฟา นอกจากจะช่วยให้โซฟาของคุณดูสวยโดดเด่นขึ้นแล้ว ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่วางของขึ้นมาอีกด้วย

12. นำของในสวนมาแต่งห้อง
ลองประยุกต์เอาของที่ใช้ประดับนอกบ้าน เช่น ม้านั่งในสวน มาทำเป็นเก้าอี้หรือโต๊ะกาแฟวางของดู จะได้มุมนั่งเล่นที่สวยแปลกตาไปอีกแบบ โดยไม่ต้องต่อเติมให้ผิดกฎ

13. ใช้ผ้าม่านแทนผนัง
คอนโดเช่าโล่ง ๆ ที่ไม่สามารถต่อเติมผนังกั้นห้องให้เป็นสัดเป็นส่วนได้ ลองแก้ปัญหาด้วยการเอาผ้าม่านมากั้นห้องแทนก็ได้นะคะ จะได้ดูเบาสบายตา แถมยังเปลี่ยนลุคใหม่ ๆ ได้บ่อยด้วย

14. วางเก้าอี้ในห้องน้ำ
เพื่อให้ห้องน้ำของคุณดูดีมีสไตล์มากขึ้น ลองเอาเก้าอี้ไปวางเสริมไว้ในห้องน้ำแบบเก๋ ๆ ซึ่งคุณสามารถใช้มันเป็นเก้าอี้นั่งแก้เมื่อยตอนนั่งทาครีมนาน ๆ ได้สบายขึ้น ถ้าอยากประหยัดจะใช้เก้าอี้วินเทจราคาเบา ๆ ก็ได้นะ

15. ซ้อนผ้าม่านให้ดูหรู
อีกวิธีที่จะช่วยให้คอนโดเช่าธรรมดา ๆ ของคุณดูหรูหราขึ้นได้ ก็คือการเอาผ้าม่านติดซ้อนกันเป็นตัวเพิ่มมิติความน่าสนใจนั่นเอง ซึ่งวิธีนี้เหมาะจะใช้แต่งในห้องนอนและห้องรับแขกมากเป็นพิเศษ

16. เตียงเดี่ยวใช้แทนโซฟา
ประยุกต์เตียงเดี่ยวมาใช้ทำเป็นโซฟานั่งเล่นซะเลย แค่นี้ห้องนั่งเล่นในคอนโดเช่าของคุณก็นั่งสบายมากขึ้นแล้ว แถมยังสามารถทิ้งตัวลงนอนได้สบาย ในยามดูทีวีแล้วเกิดเคลิ้มง่วงขึ้นมาอีกต่างหาก

17. บิวท์อินชั้นหนังสือ
ชั้นหนังสือแบบบิวท์อิน นอกจากจะใส่หนังสือได้เยอะจุใจแล้ว ยังประหยัดเนื้อที่อีกด้วย เหมาะกับคนรักการอ่านที่อยากมีห้องสมุดในบ้านแต่มีพื้นที่จำกัด ลองมองหาชั้นวางหนังสือแบบเปิดโล่ง จะทำให้คอนโดดูไม่อึดอัดจ้า

18. ประดับกรอบรูปบนผนัง
ผนังที่โล่งเกินไป อาจทำให้ห้องดูจืดชืดไม่น่ามอง ดังนั้นก็ได้เวลานำรูปสวย ๆ ที่เคยถ่ายเก็บไว้มาออกงานบ้างแล้วล่ะ โดยเพียงแค่นำรูปเหล่านั้นไปใส่กรอบ จะต่างลวดลาย หรือต่างขนาดก็แล้วแต่ชอบ จากนั้นนำมาประดับไว้ที่ผนัง ก็จะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศแคบ ๆ ในคอนโด ให้น่ามองขึ้น

19. ใส่ใจของเล็ก ๆ น้อย ๆ
แม้แต่ของตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณมองข้าม ก็สามารถช่วยให้บ้านดูสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นได้เหมือนกันนะ เช่น การเลือกหมอนอิงสกรีนลายเท่ ๆ หรือสีแสบสันจี๊ดจ๊าดมาใช้ เป็นต้น ขอแค่เข้ากับธีมการตกแต่งโดยรวมก็ใช้ได้แล้วล่ะ

20. ผ้าปูโต๊ะยาว ๆ ช่วยบังความรก
ใช้ผ้าปูโต๊ะยาว ๆ ปกปิดของจุกจิกที่คุณแอบเก็บไว้ นอกจากจะช่วยปิดบังความรกได้แล้ว ยังช่วยให้ห้องดูน่ารักไปอีกแบบด้วยนะ สามารถใช้ได้ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องอื่น ๆ ก็ได้จ้า

เห็นไหมล่ะว่า ที่จริงแล้วหากรู้เทคนิคดี ๆ ล่ะก็ คุณเองก็สามารถมีห้องสวย ๆ ได้ ไม่แพ้คนที่อยู่บ้านกว้าง ๆ เหมือนกัน ดังนั้นอย่ารอช้า ลองเอาเทคนิคที่ว่านี้ไปใช้กันดูนะคะ ต่อไปไม่ว่ามองไปมุมไหนจะได้ชื่นชมความสวยของคอนโดที่เช่าอยู่ได้ตลอดเวลานะ คะ


วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

รูปทรงคอนโด มีผลต่อฮวงจุ้ย

http://www.lazicondo.com/images/main/default/gallery/pic01.jpg
ในยุคสมัยที่คอนโดมิเนียมกำลัง ได้รับความนิยม แน่นอนว่าหนึ่งในเป้าหมายการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยสักแห่ง จะต้องมีคอนโดมิเนียมรวมอยู่ด้วยแน่ ๆ บางคนอาจจะซื้อไว้เพื่ออยู่อาศัย ในขณะที่หลายคนเลือกซื้อเก็บไว้ปล่อยเช่า ซึ่งหลักในการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมสักแห่งก็คงหนีไม่พ้นปัจจัยหลักอย่าง ทำเล, ราคา หรือสิ่งอำนวยความสะดวก เป็นต้น แต่เหนือสิ่งอื่นใด ฮวงจุ้ยเองก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นวันนี้จึงมีความรู้ดี ๆ จากเว็บไซต์ alinehomecare.com เกี่ยวกับรูปทรงของคอนโดมิเนียมตามหลักฮวงจุ้ยมาฝากกัน

 คอนโดรูปตัวแอล

            หากจะเลือกซื้อห้องชุดในคอนโดที่เป็นรูปตัวแอล ควรเลือกห้องที่อยู่ทางด้านฐานของตัวแอลจึงจะดี แต่ถ้าสามารถหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาคารรูปตัวแอลเป็นลักษณะที่ปราศจากพลังงานแห่งโชคลาภ

 คอนโดรูปตัวยู

            คอนโดที่มีรูปทรงคล้ายตัวยู ก็ถือว่าเป็นลักษณะที่ไม่ให้คุณนัก แต่ถ้าจำเป็นต้องเข้าอยู่อาศัย ขอให้พยายามเลือกห้องที่อยู่ทางด้านส่วนฐานของตัวยู อย่าเลือกห้องที่อยู่ทางฝั่งปีกทั้งสองด้าน

 คอนโดหลายอาคาร

            คอนโดมิเนียมบาง แห่งเป็นอาคารหลายหลังอยู่ในบริเวณเดียวกันและมีความสูงเท่า ๆ กันหมด การเลือกซื้อห้องชุดขอให้เลือกคอนโดหลังที่อยู่ตรงกลาง โดยมีอาคารหลังอื่น ๆ ขนาบข้างเป็นบริวาร แต่หากไม่สามารถเลือกหลังกลางได้ ให้เลือกหลังใดก็ได้ที่อาคารอื่น ๆ ขนาบ ข้างเสมือนบริวารควรหลีกเลี่ยงหลังแรกสุดกับท้ายสุด

 ความสูงของตึกข้างเคียง

            ถ้ามีคอนโดหรือตึกแถวอยู่แวดล้อม ต้องสังเกตด้วยว่าความสูงของตึกในบริเวณข้างเคียงนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ตึกข้างหลังหากสูงกว่าตึกของเราถือว่าดี เพราะเปรียบเสมือนมีภูเขาสูงด้านหลังเป็นที่พึ่งพิง ตึกทางด้านซ้าย-ขวาที่ขนาบตึกของเราอยู่ ควรมีความสูงเท่ากัน เพื่อเปรียบเสมือนมีผู้คุ้มกัน เมื่อเข้าอยู่อาศัยแล้ว จะทำสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จ ตึกทางซ้ายหากมีความสูงกว่าตึกทางขวาก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าตึกด้านขวาสูงกว่าถือว่าไม่ดี

 คอนโดที่ตั้งอยู่ลำพัง

            ตึกแถวหรือคอนโดที่ตั้งอยู่โดด ๆ กลางพื้นที่ว่าง โดยไม่มีตึกอื่น ๆ มาตั้งอยู่ใกล้เคียง อาจดูดีเพราะไม่บดบังทิศทางลมและทัศนียภาพ แต่ความจริงแล้วอาคารสูงในลักษณะดังกล่าว บ่งบอกถึงลักษณะแห่งความไร้อำนาจบารมี ผู้เข้าอยู่อาศัยจะได้รับพลังแห่งความโดดเดี่ยว ทำสิ่งใดมักไม่ได้รับความสนับสนุนและความร่วมมือเท่าที่ควร

 ลักษณะอื่น ๆ

            ถ้าไม่สามารถหารูปทรงคอนโดที่เหมาะสมได้ก็ขอให้เลือกคอนโดรูปสี่เหลี่ยมผืน ผ้า ซึ่งเป็นรูปทรงของอาคารสูงทั่ว ๆ ไป นั่นเอง ข้อสำคัญคือ อย่าเลือกคอนโดรูปทรงแปลก ๆ แม้ว่าจะดูสวยหรือทันสมัยเพียงใดก็ตาม รูปทรงแปลก ๆ นั้นล้วนแต่ไม่ใช่ลักษณะที่ให้โชคลาภแต่อย่างใด

            นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงคอนโดรูปทรงเว้า ๆ แหว่ง ๆ เช่น รูปทรงหกเหลี่ยม หรือแปดเหลี่ยม ซึ่งจะเหมาะกับสถานที่ราชการหรือโรงแรมมากกว่า ขณะที่คอนโดควรเต็มทุกเหลี่ยมทุกมุม เพื่อให้เกิดความมั่นคงและสงบสุขในการอยู่อาศัย


วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

4 เทคนิคง่าย ๆ แต่งคอนโดให้น่าอยู่



ต้องบอกว่าปัจจุบัน คนในเมืองสนใจคอนโดกัน มากขึ้น และก็มีคอนโดใหม่เพิ่มขึ้นทุกวันเป็นดอกเห็ด เนื่องจากคอนโดนั้นสะดวกสบายไม่แพ้บ้านแล้วยังดูแลรักษาได้ง่ายกว่าจึงทำให้ คนมนเมืองหันมาอยู่คอนโดกันมากขึ้นประประกอบกันสะดวกสบายต่อการเดินทาง

ซึ่ง คอนโดนั้นมีมากหลากหลายโครงการแล้วทำเลก็ใกล้สถานที่อำนวยความสะดวกในชีวิต ประจำวันมากมายหากหล่ายๆท่านที่ต้องการจะซื้อคอนโดแต่ก็ยักห่วงในเรื่องของ พื้นที่ที่มีจำนวนจำกัดอยู่วันนี้เราก็มี 4 เคล็ดลับง่ายๆให้ทุกท่านตกแต่งคอนโด ให้ดูกว้างและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

จัดเก็บข้าวของ

เชื่อ ว่ามีเพื่อนๆหลายคนที่มีข้าวของเยอะแยกมากมาย ใช้บ้างไม่ได้ใช้บ้างวางไว้เต็มบ้านโดยบางครั้งก็ไม่รู้ว่าใช้ประโยชน์อะไร ได้บ้างแนะนำให้ทุกท่าน จัดการแยกของที่ใช้งาน และไม่ได้ใช้งานออกก่อน บางคนอาจจะไม่รู้จะเก็บไว้ที่ไหนเพราะมันเยอะไปหมดแนะนำให้ บริจาคซะเลย  (ได้บุญด้วย) หลังจากแยกไว้เรียบร้อยแล้ว เราก็จะรู้คะว่าชิ้นไหนที่เราใช้ประโยชน์บ่อยๆ แล้วใช้ชิ้นนั้นแหละคะ นำมาแต่งห้องของเรา

ของประดับตกแต่ง

ไม่ว่า จะเป็น บ้านหรือ คอนโด ล้วนแต่มีแนวทางในการตกแต่งที่ต่างกัน ดังนั้นไม่ควรจะจัดอะไรที่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเค้าไปซะหมดคะ ก่อนที่จะตกแต่ง และ เลือกซื้อของเข้ามาตกแต่งนั้นควรจะคำนึงถึงก่อนว่าบ้านและคอนโดของเรานั้น เหมาะกับมันหรือไม่ จะได้ไม่เสียตังค์โดยปล่าวประโยชน์ แล้วยังต้องมาหาที่เก็บให้มันอีก เช่นถ้าบ้านของคุณมีขนาดเล็ก แต่ซื้อเฟอร์นิเจอร์ซะใหญ่เชียว นอกจะจะหาที่วางลำบาก ยังทำให้เนื้อที่ภายในห้องนั้นน้อยลงไปด้วย ดูอึดอัดคับแคบ ในทางตรงกันข้าม ลองเลือกเฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์ ที่อาจะทำได้หลายหน้าที่ เช่นโซฟา ที่ปรับนอนได้ นั่งได้ เก็บของได้อีก

ต้อง เลือกใช้ของประดับตกแต่ง ห้องที่ช่วยให้ห้องดูโปร่งกว้าง เช่น กระจกเงาบานใหญ่ วอลเปเปอร์ลายทางยาว ติดผ้าม่านจากขอบเพดานลงมาแทนการติดจากขอบหน้าต่าง

จัดวางเฟอร์นิเจอร์

หลัง จากเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งห้องต่างๆแล้ว สิ่งที่สำคัญต่อไปก็การจัดวางหาพื้นที่ให้กับมันนั่นเอง สิ่งที่ไม่ใช่เราไม่ควรจะนำมาวางไว้ให้เกะกะ จัดสรร ของที่เราใช้เป็นประจำจริงๆ แล้วที่ลืมไม่ได้ทุกครั้งที่มีการใช้งานไม่ว่าจะเป็นหนังสือ หรืออะไรก็ตามเราต้องเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อยคะ เป็นการฝึกตัวเองไปด้วยในตัวคะ

จัดสรรพื้นที่

จัด สรรพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนตามการใช้สอย ซึ่งบางพื้นที่สามารถรวมเป็นมุมใช้งานร่วมกันได้ เช่น มุมพักผ่อน มุมนั่งทำงาน และมุมโต๊ะอาหาร หรือวางอุปกรณ์เครื่องเรือนไว้ชิดผนังด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ให้วางเกะกะเพราะนอกจากจะทำให้ห้องดูแคบแล้วยังไม่งามตาอีกด้วย




Thaihomeonline : บ้านมือสอง ขายบ้าน

วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แต่งบ้านด้วยปูนเปลือย สวยเรียบง่ายสไตล์ดิบ


ปัจจุบัน การแต่งบ้านด้วยปูนเปลือย ได้รับความนิยมมากขึ้น  แต่สำหรับคนที่ยังไม่มั่นใจ เรามีไอเดียดี ๆ มาฝาก  

ด้วยความที่งานปูนเปลือยเป็นงานที่ต้องใช้ฝีมือและความประณีต เพื่อให้พื้นออกมาดูดิบแต่มีสไตล์ โดยการแต่งบ้านแบบนี้ได้รับความนิยมมากในต่างประเทศ แต่สำหรับเมืองไทยนั้นเจ้าของบ้านหลายท่านยังไม่ค่อยมั่นใจในฝีมือของช่าง อีกทั้งส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจขั้นตอนการทำพื้นปูนเปลือย จึงอาจทำให้ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรทำดีหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเราสามารถพบเห็นสไตล์การแต่งบ้านด้วยปูนเปลือยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามอาคารแนวโมเดิร์น ทั้งที่เป็นบ้านอยู่อาศัยและร้านอาหาร

ปูน คือ การนำเอาหินปูนมาบด โดยกรรมวิธีในการทำก่อนจะออกมาเป็นปูนนั้นเรียกว่า Portland Cement ที่ใช้สำหรับงานโครงสร้าง ปูนชนิดนี้จะต้องมีความแข็งแรงมาก แต่หากนำปูน Portland Cement มาผสมกับ Silica หรือ “ทราย” ก็จะได้ Mixed Cement หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Silica Cement ซึ่งปูนชนิดนี้ใช้สำหรับงานก่อและฉาบ จะมีความแข็งน้อยกว่า Portland Cement และถ้านำ Silica Cement ผสมกับส่วนผสมอื่นๆ แล้วแต่วัตถุประสงค์ในการผสมเพื่อใช้ในงานต่างๆ ก็จะเรียกว่า Modify Cement ซึ่งปูนชนิดนี้เหมาะที่จะใช้ในงานฉาบ ไม่ควรนำไปใช้ในงานก่อหรืองานโครงสร้างเด็ดขาด

พื้นปูนขัดมันมี 2 แบบ ได้แก่
1. พื้น คสล. (คอนกรีตเสริมเหล็ก) ผิวขัดมัน มีอีกชื่อหนึ่งว่า พื้นปูนแบบขัดสด ทำโดยใช้การผูกเหล็กเสริม (หรือที่เรียกว่า การวาง wire mesh) แล้วเทคอนกรีตโครงสร้าง
2. พื้นปูนทรายปรับระดับ ผิวขัดมัน แบบนี้จะใช้วิธีเทพื้นคอนกรีตแล้วขูดหน้าลายไว้ โดยที่จะ set ระดับพื้นคอนกรีตให้ต่ำกว่าความต้องการประมาณ 3-5 เซนติเมตร

ขั้นตอนการทำพื้นปูนขัดมัน
พื้นคสล. (คอนกรีตเสริมเหล็ก)
1. เทคอนกรีตโครงสร้าง จากนั้นทำการปรับระดับให้ได้ตามต้องการ
2. เมื่อคอนกรีตเริ่มแห้งหมาดๆ ให้โรยปูนซีเมนต์ผง หรือปูนซีเมนต์ผสม ลงบนผิวหน้า
3. ขัดให้เรียบด้วยเกรียงเหล็ก

พื้นปูนทรายปรับระดับ
1. ผสมปูนเทปรับระดับให้ได้ตามต้องการ ความสูงที่นิยมทั่วไปคือ 3 เซนติเมตร
2. เมื่อปูน-ทรายเริ่มแห้งหมาดๆ ให้โรยปูนซีเมนต์ผง หรือปูนซีเมนต์ผสม ลงบนผิวหน้า
3. ขัดให้เรียบด้วยเกรียงเหล็ก
ขั้นตอนข้างต้นส่วนมากจะใช้กันพื้นที่ที่ไม่ใหญ่มาก แต่ถ้าเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยมากแล้วช่างจะใช้เครื่องขัดพื้นปููน หรือ “คอปเตอร์” ซึ่งหากใช้เครื่องขัดก็ไม่จำเป็นต้องโรยปูนซีเมนต์ผงก็ได้ วิธีนี้จะอาศัยปูนซีเมนต์ที่ลอยขึ้นมาที่ผิวหน้าระหว่างที่คอนกรีตหรือ ปูน-ทราย set ตัว

ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดนะครับ แต่สิ่งสำคัญคือ ช่างที่ทำงานเรียบร้อย และการดูแลหลังทำเสร็จมากกว่า

การดูแลรักษาปูนขัดมัน
1. การใช้ซิลิโคนทาเคลือบผิวหน้า เป็นน้ำยาที่ใช้เคลือบดูแลพื้นผิวปูน ลดการเกิดฝุ่นหรือเป็นขุย แต่ไม่ป้องกัน การแตกร้าว
2. การใช้ Epoxy ใสทาเคลือบ ซึ่งเทคโนโลยีด้านสีที่พัฒนาขึ้นมากในทุกวันนี้ Epoxy ใสจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับการเคลือบผิวพื้นปูนเปลือย โดยมีให้เลือกทั้งแบบเงา กึ่งเงา และด้าน
3. การใช้ Wax เคลือบผิว ทำได้ง่ายๆ คือ ใช้ Wax น้ำ ทาหลายๆ ครั้ง พื้นปูนขัดมันจะเงาขึ้นได้ การลง Wax เป็นการช่วยเคลือบผิวอีกทีเหมือน Wax ขัดรถยนต์ หากต้องการให้เงางามอยู่ตลอด จะต้องลง Wax เป็นระยะแล้วแต่ความหนาของ Wax ที่ซึมลงไปเพื่อให้คงความเงาอยู่ตลอดเวลา

ปัญหาของปูนขัดมัน
1. เห็นรอยแตกร้าวค่อนข้างชัดเจน (บางคนคิดว่าเป็นธรรมชาติและดูคลา สสิคดี)
2. มีการแตกตามรอยจับระดับพื้น (จับเซี้ยม)
3. การใช้ Wax ขัด หรือ Epoxy ชนิดเงา จะทำให้ความไม่เรียบของพื้นผิวเห็นชัดขึ้น
4. หากเทไม่ดีอาจจะร่อนได้ในอนาคต
5. หากต้องแก้ไขทั้งหมดเนื่องจากการทุบเฉพาะส่วนที่เกิดปัญหาแล้ว สีของเนื้อการขัดมันใหม่จะไม่เข้ากับสีเนื้อเดิมและเห็นเป็นรอยสกัดได้

ขั้นตอนการทา Epoxy เคลือบผิว
เนื่องจากพื้นปูนขัดมันจะมีพื้นผิวที่มัน ฉะนั้นโดยทั่วไปจึงทา Epoxy ไม่ติด จึงต้องมีการทารองพื้นชนิดแทรกซึมผิวก่อนที่จะทา Epoxy ทับ โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. เริ่มต้นด้วยการเตรียมพื้นที่ให้สะอาด ปราศจากฝุ่นและไขมันบนพื้นผิว
2. ต่อไปให้ผสมรองพื้นแทรกซึมผิว เป็น Epoxy ชนิด 2 ส่วน A:B ด้วยปริมาณ 2:1 หมายความว่า A 2 ส่วน ต่อ B 1 ส่วน พร้อมกับผสมทินเนอร์ที่ใช้กับรองพื้นแทรกซึมผิวไม่เกิน 25% จากนั้นคนส่วนผสมต่างๆ ให้เข้ากัน
3. ทาพื้นด้วยรองพื้นแทรกซึมผิว แล้วทิ้งไว้อย่างน้อย 12 ชั่วโมง
4. จากนั้นผสมสี Epoxy ใส A:B ด้วยอัตราส่วน 4:1 พร้อมกับทินเนอร์สำหรับผสม Epoxy ใสไม่เกิน 25% จากนั้นคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
5. เมื่อผสมส่วนผสมต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มทา Epoxy ใส โดยเมื่อทาเสร็จจะต้องทิ้งไว้ไม่น้อยกว่า 3 วัน จึงจะใช้งานได้

วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ฮวงจุ้ยในบ้านที่สำคัญ ๆ ได้แก่



หน้าประตูระวังเสาไฟฟ้า

ก่อน เข้าประตู ลองดูว่ามีเสาไฟฟ้าอยู่ตรงกับบ้าน หรือวางตรงข้ามบ้านหรือเปล่า เพราะมีซินแสสองคนบอกตรงกันว่าเสาไฟฟ้านี้ไม่ดี เปรียบเหมือนทางสามแพร่งที่ทุกคนรู้กันว่าไม่ดีนั่นแหล่ะ ให้แก้โดยใช้สิงห์คาบดาบติดไว้ที่หน้าบ้าน

ใช้ประตูผลักเข้าบ้านด้านเดียว

ใน ทางฮวงจุ้ยที่ผมอ่านมาบอกว่าประตูที่ดีที่สุดก็คือประตูสองบานและผลักเข้า บ้านได้อย่างเดียว อย่าให้เปิดได้สองทาง เพราะในทางฮวงจุ้ยเค้าจะมองเรื่องพลังชี่เข้าบ้าน หรือทรัพย์สินนั่นแหล่ะ เชื่อว่าให้ไหลเข้าบ้านอย่างเดียว แต่ถ้าทำประตูแบบดึงก็จะกลายเป็นให้ทรัพย์สินออกจากบ้าน
วิธีแก้ไขง่าย ๆ คือให้ช่างมาติดตั้งลูกยางบังคับไม่ให้ดึงออกจากบ้าน แต่ถ้าท่านรวยอยู่แล้วก็ไม่ต้องทำก็ได้
และถ้าท่านใดกำลังจะสร้างบ้าน ลองพิจารณาให้ประตูอยู่ตำแหน่งด้านขวาของบ้านเมื่อมองเข้าบ้านจะตรงหลัก

เสริมทรัพย์ด้วยตู้ปลาหรือบ่อปลา

ประโยค ที่กล่าวบ่อยเกี่ยวกับฮวงจุ้ยก็ คือ น้ำก่อลม ลมก่อทรัพย์ นั่นคือ หากหน้าบ้านมีพื้นที่เหลือก็ให้ขุดบ่อหรือวางภาชนะใส่น้ำ และถ้าให้ดีต้องมีปลาเพื่อให้เกิดพลังหยาง (เคลื่อนไหว) หรือถ้ากลัวปลาตายก็ให้มีออกซิเจนหรือน้ำตก น้ำพุก็ได้
หรือถ้าหน้าบ้านไม่มีพื้นที่ เมื่อเปิดประตูบ้าน ก็ให้ตั้งตู้ปลาด้านขวามือก็จะตรงตำแหน่งทรัพย์

พื้นหลังบ้านให้ต่ำกว่าหน้าบ้าน

หลัก การนี้อาจจะฟังแปลก ๆ เพราะหลายคนคงเคยได้ยินว่าให้หลังบ้านสูงกว่าหน้าบ้าน ถูกต้อง แต่หลังบ้านก็คือหลังบ้านจริง ๆ ไม่ใช่ในตัวบ้าน ถ้าด้านหลังเป็นภูเขาจะดีมาก (แต่อย่าติดเขาเกินไปหรือติดหน้าผา) แต่ถ้าพิจารณาหลักในตัวบ้านนั้นต้องกลับข้างกัน คือระดับพื้นในส่วนของหลังบ้านควรให้ต่ำกว่าระดับพื้นส่วนหน้าบ้านซักสิบถึง ยี่สิบเซนติเมตร
เพราะ ว่า ถ้าพิจารณาหลักของพลังชี่จะเหมือนสายน้ำ ถ้าพื้นด้านหลังบ้านต่ำ พลังชี่จะไหลเข้าได้ง่าย ส่งผลให้มีทรัพย์สินเพิ่มพูนมากขึ้น กลับข้างกัน หากพื้นหลังบ้านสูง การเงินจะติดขัด
เรื่อง พื้นหลังบ้านนี้ก็ต้องทำใจสำหรับท่านที่มี บ้านอยู่แล้ว เพราะหากจะปรับแก้ระดับพื้นนั้นต้องใช้เงินเยอะ แต่มีวิธีเลี่ยงง่าย ๆ คือ ให้ขุดเป็นร่องน้ำระหว่างต่างระดับ แล้วเอาตะแกรงปิด อาจดูพิลึกซักหน่อย

หรืออีกวิธีคือให้หาอ่างน้ำเล็ก ๆ หรืออ่างบัวมาวางก่อนทางต่างระดับ

ห้องครัวให้อยู่ซ้ายหลัง

เรื่อง นี้ก็สำหรับผู้ที่จะสร้างบ้านได้พิจารณาก็แล้วกัน ผู้ที่มีบ้านอยู่แล้วไม่ต้องไปปรับแก้ให้เสียตังค์เลย ส่วนสาเหตุของตำแหน่งห้องครัวที่ให้อยู่ซ้ายหลังเมื่อมองเข้าบ้านเพราะเป็น ตำแหน่งของทรัพย์

เสริมความสามัคคีด้วยภาพครอบครัว

เรื่อง นี้เป็นความเชื่อที่ไม่ต้องเสียตังค์ทุบหรือตกแต่งแต่อย่างใด และตรงกับหลักจิตวิทยา นั่นคือ หากท่านต้องการให้ครอบครัวมีความอบอุ่น รักใคร่สามัคคี ก็ให้หารูปครอบครัวมาติดที่ผนังห้องรับแขกหรือห้องกลาง

วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แจ๋ว คอนโดชั้นครึ่ง มีทุกความต้องการ






ใครต่างก็อยากจะมีห้องคอนโดหรู ๆ ใหญ่ ๆ กันทั้งนั้น เพราะคิดว่าพื้นที่กว้าง ๆ นั้นให้ความสบายมากว่า แต่เคยคิดบ้างไหมว่าบางครั้งพื้นที่อาจไม่ใช่เรื่องหลักที่ทำให้ห้องคอนโด ของเราน่าอยู่เสมอไป แต่เพียงดีไซน์และจัดสรรสัดส่วนภายในให้เกิดประโยชน์ ก็สามารถตอบสนองทุกความต้องการของเราได้เช่นเดียวกัน เหมือนกับคอนโดห้อง นี้ ที่มีพื้นที่ใช้สอยเพียงแค่ 180 ตารางฟุตเท่านั้น แต่ Tim Seggerman ก็ได้เปลี่ยนห้องเล็กให้กลายเป็นห้องขนาดใหญ่ได้ในเวลาสั้น ๆ แถมยังสวยงามโดนใจอีกด้วย

ถึง แม้พื้นที่นั้นจะเล็กเกินกว่าที่จะ ตกแต่งอะไรได้มากนัก แต่ทว่าภายในกลับแบ่งเป็นชั้นครึ่ง โดยชั้นบนนั้นเป็นใช้เป็นห้องนอนส่วนตัว ส่วนห้องอื่น ๆ อย่าง ห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่น ถูกจัดเอาไว้บริเวณด้านล่าง นอกจากนี้แล้วก็ยังมีโฮมออฟฟิศเล็ก ๆ และห้องสมุดสุดน่ารักแอบซ่อนอยู่ตรงข้างเตียงด้วย หากมองจากภายนอกอาจดูเหมือนตู้เก็บของไปหน่อย แต่เมื่อเปิดออกมาแล้วจะพบกับหนังสือมากมายวางเรียงรายอยู่เต็มห้อง พร้อมหมอนอิงกับพรมผืนสวยไว้อำนวยความสะดวก

และ เนื่องจากพื้นที่ค่อน ข้างเล็กเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงหลีกเลี่ยงการใช้สีจัดจ้านและสีทึบ เปลี่ยนเป็นนำแผ่นไม้ที่มีโทนสีอ่อนมาตกแต่งทั่วทั้งห้องแทน ไม่ว่าจะเป็นเพดาน ผนัง หรือตู้บิวท์อิน ส่วนเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เน้นใช้สีขาวเป็นหลัก เพื่อทำให้ห้องดูสว่าง และปลอดโปร่งกว่า ที่เป็นส่วนของประดับก็ใช้เพียงรูปภาพ และผืนผ้าสีเข้ม ทำให้ภายในห้องดูน่าสนใจขึ้นเท่านั้นเอง ถ้าหากมีห้องเล็ก ๆ แต่สวยขนาดนี้ก็น่าสนใจอยู่เหมือนกันนะ แบบนี้คงต้องนำไอเดียไปปรับใช้ดูบ้างแล้วจ้า




Thaihomeonline : บ้านมือสอง ขายบ้าน

วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

15 หลักเรื่องฮวงจุ้ย ในที่ทำงาน


http://iplayiwill.com/wp-content/themes/bluezine/timthumb.php?src=http://iplayiwill.com/wp-content/uploads/2013/05/iwill_005.jpg&w=585&h=250&zc=1

หากใครกำลังว้าวุ่นกังวลจิตกับเรื่องการงานไม่ มีทางออก เพื่อนร่วมงานไม่ได้ดั่งใจ เจ้านายเจ้าอารมณ์ ฯลฯ ลองจัดออฟฟิศตามหลักฮวงจุ้ยคลายเครียดกันดีไหม เริ่มต้นง่ายๆ ที่โต๊ะทำงานของคุณเลย ถ้าคุณอยู่กับโต๊ะทำงานมากกว่า 5 ชม. ต่อวันฟังทางนี้

1. โต๊ะทำงานของเจ้าของกิจการหรือผู้บริหาร ถ้าอยู่ในตำแหน่งที่ดีจะส่งผลให้ธุรกิจที่ทำอยู่ประสบความสำเร็จ จึงควรนั่งอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจในการควบคุมมากที่สุดคือ ตรงมุมห้องที่ทแยงกับประตูทางเข้าห้องทำงาน
2. สำหรับพนักงานทั่วไป ควรเลือกโต๊ะที่ทแยงมุมกับประตูมากที่สุดเช่นกัน แต่ต้องเห็นประตูและไม่หันหลังให้ประตู เพราะเชื่อกันว่าเพื่อนร่วมงานจะแทงข้างหลัง
3. ตำแหน่งของมุมทรัพย์ หรือมุมร่ำรวยมั่งคั่ง เมื่อเข้าห้องไปแล้วจะอยู่มุมซ้ายมือสุด ถ้ามี รูปปั้นเสือขาว ตั้งอยู่ในห้องทำงานก็ยิ่งจะส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงในธุรกิจที่ประกอบ อยู่
4. บรรยากาศภายในห้องทำงาน ควรจัดแต่งให้มีแสงสว่างและควรจัดดอกไม้ หรือแขวนรูปภาพ เพื่อเพิ่มบรรยากาศภายในห้องทำงานให้แลดูสดใส มีพลังและมีชีวิตชีวา ยามเหนื่อยล้าจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้ด้วย
5. ถ้านั่งทำงานเผชิญหน้ากับเสา ที่เรียกว่า มุมเสาศรพิฆาต ให้ทำลายพลังอัปมงคลด้วยแท่งคริสตัล ว่ากันว่า การหา รูปหล่อสิงห์หรือคริสตัลรูปมังกร มาตั้งไว้ที่ด้านซ้ายของโต๊ะทำงาน จะช่วยแก้การนินทาว่าร้ายของเพื่อนร่วมงานได้เช่นกัน
6. โต๊ะทำงานควรเป็นโต๊ะที่ด้านล่างปิดทึบทั้งสามด้าน และการจัดโต๊ะให้ยึดหลัก ซ้าย (มังกร) ต้องสูงกว่าขวา (เสือขาว) เช่น จอ Monitor กองเอกสารควรอยู่ซ้ายมือ ปากกา Mouse มุมอุปกรณ์ที่มีส่วนไม่สูงมากควรวางอยู่ด้านขวามือ
7. Screen Server ไม่ควรมีรูปเป็นมุมแหลมหรือ X-Cross ควรเป็นรูปปลาว่ายน้ำเคลื่อนไหวตลอดเวลาเป็นดีที่สุด
8. ควรมี ต้นไม้เล็กๆ บริเวณ Monitor เพื่อลดความเข้มของสนามแม่เหล็ก และหาพืชขนาดกะทัดรัดที่สามารถปรับสภาพอากาศให้ดีมาตั้งไว้ตรงโต๊ะทำงาน หรือตามมุมห้องต่างๆ เช่น ต้นเงินไหล บอสตันเฟิร์น หรือฟิโลเดนดอล เป็นต้น
9. เก้าอี้ ควรใช้แบบไม่มีล้อ และพนักพิงหลังสูง
10. ถ้าเป็นห้องทำงานส่วนตัว ก็ให้ตั้งตัวมังกรไว้ที่ริมผนังห้องด้านซ้ง หันหน้าไปทางประตู) สิ่งสำคัญคือ หันมังกรออกด้านนอก อย่าหันใส่ตัว ส่วนการเลือกขนาดมังกรให้ดูเหมาะสมกับสถานที่เป็นหลัก
11. ลักษณะโต๊ะทำงานทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเหมาะสมที่สุด โต๊ะทรงกลมจะทำให้นั่งทำงานได้ไม่นาน เหมาะกับการประชุมมากกว่า
12. โต๊ะรูปตัวแอล L เหมาะกับพนักงานที่ทำงานใช้ความคิดเยอะ ด้านฐานของตัว L ที่เป็นตำแห่งไกลตัวคนนั่งที่สุดควรใช้วางคอมพิวเตอร์ (รูปประกอบ) เพราะคอมพิวเตอร์ทำให้เราไม่ค่อยสื่อสารกับคนอื่น
13. ควรเปิดหน้าต่างให้แสงสว่างจากธรรมชาติเข้าสู่ห้องทำงานบ้าง นอกจากจะประหยัดไฟแล้ว ยังทำให้อากาศถ่ายเท รู้สึกมีชีวิตชีวา แถมร่างกายได้รับวิตามินดีอีกด้วย เพราะคนทำงานใต้ฟลูออเรสเซนต์มากๆ จะทำให้สมองล้า ร่างกายอ่อนแอ ปวดหัวง่าย สายตาเสีย และเป็นบ่อเกิดของความเครียดในที่สุด
14. ระวังอย่าจัดโต๊ะคอมพิวเตอร์ไว้ใกล้หน้าต่างเกินไป เพราะจะทำให้แสงสะท้อนจากหน้าจอเข้าตาได้
15. การใช้สีในที่ทำงานควรมีความสมดุลของแต่ละธาตุ เช่น สีเขียวของธาตุไม้ หมายถึงการเติบโตและการพัฒนา สีแดงของธาตุไฟ หมายถึงการขยับปรับเปลี่ยนเคลื่อนไหว กระฉับกระเฉง สีเหลืองของธาตุดิน หมายถึงความฉลาด มีปัญญา และมีเหตุผล สีน้ำตาลของธาตุดิน หมายถึงความมั่นคง สีขาวของธาตุเหล็ก หมายถึงการเริ่มต้นที่สดใส และสีดำของธาตุน้ำ หมายถึงการค้นหาความลับ
เรื่อง แบบนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล แต่หากมองอย่างเปิดใจให้กว้าง นี่เป็นโอกาสดีที่คุณจะขจัดสิ่งสกปรกออกจากโต๊ะและห้องทำงานเสียที และถ้าได้ทำงานในสภาพแวดล้อมดีๆ มีหรือหัวจะไม่แล่น ว่าไหมล่ะ

ที่มาของข้อมูล: ทีแอลซีไทยดอทคอม




Thaihomeonline : บ้านมือสอง ขายบ้าน

วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เทคนิคแต่งสวนสวยในที่แคบ


http://www.bloggang.com/data/p/papada-tonsom/picture/1245382604.jpg
จะแต่งสวนทั้งที  ที่ก็ไม่มีจะทำอย่างไร  ลองมาดูเทคนิคแต่งสวนง่าย ๆ ในพื้นที่จำกัด
แนว โน้มปัจจุบันของบ้านในเขตเมืองคือพื้นที่ทุกตารางนิ้วมีค่ามหาศาล บ้านหลายหลังให้ความสำคัญกับการใช้สอยพื้นที่ภายในมาก จนแทบจะไม่มีที่ให้สำหรับสวนภายนอก เหลือเพียงแค่พื้นที่จำกัดเป็นที่แคบๆ โดยรอบถูกทิ้งให้ว่างเปล่าเป็นทางเดิน หรือปลูกต้นไม้เพื่อให้ร่มเงาบังสายตาเท่านั้น

สิ่ง สำคัญสำหรับสวนในที่แคบคือการเลือกใช้พันธุ์พืชที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศและลดความกระด้างของพื้นที่แคบและความแข็งของขอบเขต ในที่นี้ก็คือกำแพง การปลูกต้นไทรเกาหลีสูงเกือบ 2 เมตรตลอดแนวรั้วให้เป็นกำแพงธรรมชาติสีเขียวที่นอกจากจะช่วยปิดบังกำแพงแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศสดชื่นที่เกิดจากการมองเห็นได้อีกด้วย ไม้อื่นๆ ที่เลือกเป็นสายพันธุ์ที่ปลูกและดูแลรักษาไม่ยาก เช่น ก้ามกุ้งสีทอง จั๋ง คล้า ปาล์ม ซึ่งช่วยเสริมสร้างบรรยากาศแบบ Tropical Garden ให้แก่สวนได้เป็นอย่างดี 

อาจใช้ ชานนั่งเล่นยกระดับ เพื่อความต่อเนื่องกับตัวบ้านและสวน  โดยแบ่งประโยชน์ใช้สอยต่างๆ บนชานนั่งเล่นยกระดับให้เหมาะสม  เป็นการเพิ่มมิติของสวนให้ดูเหมือนว่ามีพื้นที่มากขึ้น เพราะมีพื้นที่ทางแนวตั้งมาเสริมและยังสามารถแบ่งพื้นที่สวนให้เป็นสัดส่วน ต่อการใช้งานได้อีกด้วย


ถ้า พื้นที่บางส่วนของเราอยู่ติดรั้วเพื่อนบ้าน ก็สามารถกั้นผนังไม้ระแนงเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวสลับพื้นที่บางช่วง ด้วยพรรณไม้ที่ปลูกเป็นแนวรั้ว เพื่อบดบังสายตาและลดความกระด้างของสวน  เพราะถ้ามีการใช้โครงสร้างมากเกินไป สวนจะดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ

องค์ ประกอบหลักของสวนริมสระว่ายน้ำที่ถูกวางขนานไปกับตัวบ้าน เป็นสระแบบแคบเป็นแนวยาว แม้มีความกว้างเพียงประมาณ 3 เมตร แต่สามารถใช้เป็น Lap Pool สำหรับการว่ายน้ำออกกำลังได้ สำหรับที่นั่งเล่นริมสระมี 2 บริเวณที่ทำเป็นชานพัก เป็นส่วนเชื่อมต่อกิจกรรมระหว่างภายในและภายนอกตัวบ้าน

วัสดุและสีนับว่าเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดบรรยากาศของสวนนี้ การเลือกใช้สีโทนน้ำตาลเพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสัมผัสที่เป็น ธรรมชาติแก่ชานไม้ และใช้โทนสีเทาดำจากทั้งหินแกรนิตและปูนเปลือยสร้างความรู้สึกหนักแน่นมั่น คงและสงบนิ่งแก่พื้นที่ ร่วมกับสระว่ายน้ำสีฟ้าสดสร้างความสดชื่นและสว่างไสว ทำให้บรรยากาศของสวนดูสงบนิ่ง สดชื่นและเป็นธรรมชาติ

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ฮวงจุ้ยการเลือกคอนโด ตามทิศที่เหมาะสม

http://market.natui.com.au/data/10179/images/56269/2010-04-21-00_37_01.jpg
การดูดวงชะตาเป็นปัจจัยเสริมของการดู ฮวงจุ้ย โดยมีน้ำหนักเพียง 15% เรื่องสำคัญคือการดูชัยภูมิ อย่างไรก็ตามการหาตำแหน่งที่ถูกโฉลกกับเจ้าของห้อง ก็มีวิธีพิจารณาโดยใช้ปีเกิดกับทิศทางที่สมพงศ์กัน เพื่อ ตัดสินใจว่าควรจะเลือกคอนโดฯในทิศทางใด คือ

     1. ปีกุนและปีชวด (ธาตุน้ำ) ทิศถูกโฉลก คือ ทิศเหนือ , ตะวันตก, และตะวันตกเฉียงเหนือ ทิศต้องห้าม คือ ตะวันออกเฉียงเหนือ, ตะวันตกเฉียงใต้

     2. ปีขาลและปีเถาะ (ธาตุไม้) ทิศถูกโฉลก คือ ทิศตะวันออก, ตะวันออกเฉียงใต้, เหนือ ทิศต้องห้าม คือ ทิศตะวันตก ตะวันตกเฉียงเหนือ

     3. ปีมะเส็งและมะเมีย (ธาตุไฟ) ทิศถูกโฉลก คือ ทิศใต้, ตะวันออก, ตะวันออกเฉียงใต้ ทิศต้องห้าม คือ ทิศเหนือ

     4. ปีวอกและระกา (ธาตุทอง) ทิศถูกโฉลก คือ ตะวันตก, ตะวันตกเฉียงใต้ ,ตะวันออกเฉียง เหนือ ทิศต้องห้าม คือ ทิศใต้

     5. ปีฉลู มะโรง มะแม จอ (ธาตุดิน) ทิศถูกโฉลก คือ ตะวันออกเฉียงเหนือ, ตะวันตกเฉียงใต้,ทิศใต้ ทิศต้องห้าม คือ ทิศตะวันออก, ตะวันออกเฉียงใต้

      เมื่อรู้ตำแหน่งทิศแล้ว จากนั้นจึงเลือกห้องคอนโดฯ โดยต้องหาจุดกึ่งกลางของคอนโดฯ ให้ได้แล้งจึงแบ่งออก เป็น 8 ทิศหลักดังกล่าวข้างต้น


วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

10 เทคนิคตกแต่งบ้าน ประหยัดเงิน



สำหรับวันนี้ เราก็มีเทคนิคใหม่ ๆ มาเสนอสำหรับคนที่อยากจะปรับเปลี่ยนลุคให้กับบ้านของคุณโดยที่ไม่ต้องลงทุน มากมาย ก็ได้บ้านสวยเก๋มาเชยชมแล้วหล่ะค่ะ

1.ทาสีผนังใหม่

          ลงทุนเลือกซื้อสีทาภายในที่ชอบมาซักกระป๋อง แล้วเลือกวันว่าง ๆ สุดสัปดาห์ รวมพลคนในครอบครัวให้มาช่วยกันทาสีห้องใหม่ ไม่เพียงแต่จะได้ห้องที่แปลกตาไปจากเดิม แต่ยังได้ร่วมทำกิจกรรมกันในครอบครัว เพียงเท่านี้ผนังห้องเรียบ ๆ สีขาวก็จะเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ  รับรองได้ว่าคุ้มค่าการลงทุนอย่างแน่นอน

2.ตกแต่งห้องใหม่

          ลองดูซิว่า ตอนนี้บ้านของคุณมีอะไรอยู่แล้วบ้าง มุมนั้นวางของรกเกินไปรึป่าว หรือว่ามีรูปสวย ๆ ไปวางเก็บทิ้งไว้ในห้องเก็บของ ทำไมไม่ลองจัดแต่งบ้านใหม่ โดยเลือกเอาของที่คุณมีอยู่เดิมมาวางในมุมที่เปลี่ยนไป เช่น โต๊ะเขียนหนังสือตัวเก่าที่ลูกสาวไม่ใช้แล้ว ลองเอามาจัดวางในห้องรับแขก เป็นมุมไว้สำหรับโชว์ของ หรือว่าภาพฝีมือลูกชายสมัยยังเด็กที่ยังเก็บไว้ ลองเอามาประดับตกแต่งผนังบ้านของคุณดูสิ รับรองได้ว่าให้ความรู้สึกย้อนความหลังได้ดีทีเดียว

3.เลือกแสงอย่างชาญฉลาด

           ลองติดตั้งตัวปรับระดับแสงให้กับสวิชไฟในห้องของคุณ รับรองได้ว่าจะช่วยเปลี่ยนความรู้สึก รวมถึงสามารถปรับแสงให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละเวลาได้ด้วย  แต่ถ้าหากเป็นเรื่องยากเกินไปนัก  ลองเลือกโคมไฟเก๋ ๆ มาตั้งสองข้างขนาบกับโซฟาตัวโปรดของคุณในห้องนั่งเล่น  หรือจะเปลี่ยนที่ครอบอันใหม่ให้เรียบหรู ดูมีสไตล์กว่าเดิมก็ไม่ว่ากัน

4.หมอนอิงช่วยได้

             ถ้าหากว่าการลงทุนซื้อโซฟาตัวใหม่ซักตัว ทำให้คุณต้องคิดหนักเรื่องราคาแล้วหล่ะก็ ขอแนะนำว่าเพียงเลือกหมอนอิงลายสวยเก๋ถูกใจหลาย ๆ ใบมาวางประดับลงบนโซฟาตัวเก่า เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ห้องใหม่ หมอนใหม่ และโซฟารูปแบบใหม่ ที่แตกต่างไปจากเดิมแล้วหล่ะค่ะ

5.นอนอย่างมีสไตล์

              ห้องนอนของคุณก็ต้องการ การเปลี่ยนแปลงด้วยรึเปล่า? ลองเปลี่ยนหัวเตียงใหม่ดูสิ หรือจะเลือกภาพวาดอันใหญ่มาประดับผนังก็ไม่เลวนะ นอกจากจะช่วยเพิ่มอะไรให้กับผนังห้องของคุณแล้ว  การเลือกตกแต่งที่ ดูหนักแน่นยังช่วยทำให้ห้องของคุณดูมีแนวทางที่ชัดเจนและ มีเสน่ห์  หรือว่าอยากจะลองเลือกรูปแบบผสมผสานก็ไม่ว่ากัน  ตัวเตียงใหม่กับโต๊ะตัวเก่า หรือจะหัวเตียงเก่ากับโต๊ะตัวใหม่คงแล้วแต่ใครจะชอบแบบไหน คงต้องเลือกกันเอาเอง

6.ลองใช้กระจกซิจ๊ะ

                หากว่าภาพวาดหรืองานศิลปะที่คุณอยากจะได้มาประดับห้องของคุณมีราคาสูงเกินงบ ไปหน่อย ทำไมไม่ลองหันมาเลือกใช้กระจกประดับห้องดูหล่ะ เพียงนำกระจกไปเข้ากรอบที่คุณชอบ แล้วก็มาวางเรียงประดับห้อง อยากได้มากได้น้อยก็สามารถตกแต่งเลือกได้ตามใจตัวเอง  นอกจากจะให้ลูกเล่น และผลลัพธ์ที่แปลกตาแล้ว  ยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อย่างดีอีกด้วย

7.พิจารณาเรื่องขนาด

                 เรื่องของขนาดนั้นมีผลมากทีเดียวกับความรู้สึกของคน  ไม่ว่าห้องของคุณมีขนาดเล็กแค่ไหน แต่ถ้ามีของประดับชิ้นใหญ่ซักชิ้น รับรองได้ว่าช่วยทำให้ห้องคุณดูแกรนด์ขึ้นได้มากทีเดียว  ลองเลือกภาพพิมพ์ชิ้นใหญ่ ๆ มาวางประดับผนัง หรือจะเลือกงานประติมากรรมที่ชื่นชอบซักชิ้นก็ไม่ว่ากัน

8.ของเก่าทำใหม่

                  แม้จะเป็นเก้าอี้ตัวเก่าที่เริ่มจะออกสีเหลือง ๆ แต่โครงไม้ที่สวยงามนั้นคงทำให้ทิ้งมันไม่ลง  ทำไมไม่ลองนำเอาเฟอร์นิเจอร์เก่าที่มีไปปรับเปลี่ยนเบาะใหม่  แล้วก็ทาสีซะใหม่ เพียงเท่านี้เก้าอี้ตัวเก่งของคุณก็จะดูใหม่และเก๋เหมาะกับห้องของคุณ

9.จัดการกับหน้าต่างของคุณ

                  ลองเลือกผ้าม่านที่เหมาะกับหน้าต่างและห้องของคุณ  บางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ แต่ว่าผ้าม่านเป็นตัวกรองแสงที่จะเข้ามาภายในห้อง รวมไปถึงรูปแบบและลวดลายของผ้าม่านยังสามารถแสดงรสนิยมและบุคลิกของเจ้าของ ได้อีกด้วย  ทำไมไม่ลองเปลี่ยนผ้าม่านห้องนั่งเล่นของคุณดูหล่ะ เพียงเท่านี้ห้องคุณก็จะเปลี่ยนไปอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน

10.สร้างสรรค์ผลงานให้บ้านด้วยตัวเอง

                  หลังจากเลือกสรรหางานศิลปะสวย ๆ เพื่อมาประดับห้องอยู่นาน  อาจไม่พบที่ถูกใจหรือว่ามีราคาแพงเกินไป  ทำไมไม่ลองมาสร้างสรรค์ผลงานเองดูหล่ะ  อาจจะทำแบบง่าย ๆ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบวาดรูป โดยหารูปในนิตยสารที่ชอบ มาแปะซ้อนทับกัน ตกแต่งสร้างภาพขึ้นเองใหม่ แล้วใส่กรอบ  หรือใครคนไหนมีฝีมือ ก็อวดโฉมได้เต็มที่ เพียงเท่านี้  เทคนิคง่าย ๆ เราก็สามารถตกแต่งบ้านสวยราคาประหยัดกันได้แล้วหล่ะค่ะ





Thaihomeonline : บ้านมือสอง ขายบ้าน

วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เลือกคอนโด ริมทะเลตามศาสตร์ฮวงจุ้ย

ศาสตร์ของฮวงจุ้ย มีความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่แตกต่างกันไปบนโลกใบนี้ บางอย่างอาจเหมาะกับภูมิภาคแถบเอเชีย แต่บางอย่างก็เหมาะกับภูมิภาคแถบอเมริกา ฮวงจุ้ยบน แผ่นดินก็แตกต่างกับในท้องทะเล พื้นที่ชายฝั่งก็ไม่เหมือนกับพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำ ฯลฯ นั่นเองการเลือกซื้อคอนโดฯ ในแต่ละทำเลจึงมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป

     สำหรับครั้งนี้จะนำเสนอการเลือกซื้อคอนโดฯ ริมทะเล ที่ถูกต้องตามหลักศาสตร์ของฮวงจุ้ย อยู่แล้วสบาย ขายต่อก็ได้ไม่ขาดทุน คอนโดฯ ริมทะเล วิวกับทิศทางลมเป็นตัวเลือกลำดับแรกที่ต้องตัดสินใจเลือก

       1. วิวหรือมุมมอง วิวทะเลเป็นสิ่งแรกที่ผู้ซื้อต้องตัดสินใจเลือก ซึ่งก็มักจะเป็นห้องที่มีราคาแพง ถ้าไม่สามารถซื้อได้ก็เลือกวิวที่รองลงมาก็คือวิวสระว่ายน้ำ ถ้ายังไม่ได้หรือเกินงบก็อาจต้องเลือกวิวตามธรรมชาติ เช่น วิวภูเขา วิวแม่น้ำลำธารก็ยังได้อยู่ ส่วนวิวที่ไม่ควรเลือกเลยก็คือวิวด้านของบ่อบำบัดน้ำเสีย บ่อทิ้งขยะของโครงการ วิวที่ติดกับแหล่งท่องเที่ยวกลางคืน หรือวิวที่มีความเป็นไปได้ที่จะมีโครงการขึ้นประจัญหน้ากับห้องที่จะเลือก นอกเหนือจากนี้ถ้าไม่โดนบังคับซื้อหรือขาดที่อยู่อาศัยอย่างเร่งด่วนแล้ว ไม่แนะนำให้ซื้อครับผม

        2. ทิศทางลม เป็นปัจจัยที่สำคัญอีกอันหนึ่งเพราะมีผลสัมพันธ์กับวิวทะเลและวิวภูเขา ทิศทางของลมชายหาดนั้นมี 2 แบบ คือ

              1. ลมบก (ลมที่พัดจากบกไปสู่ทะเล เกิดขึ้นในเวลากลางคืน)

              2. ลมทะเล (ลมที่พัดจากทะเลไปสู่บก เกิดขึ้นในเวลากลางวัน)

          ดังนั้นเมื่อเราเลือกวิวได้แล้ว การจัดพื้นที่ใช้สอยภายในจะต้องสอดคล้องทิศทางของลมบก และลมทะเล พื้นที่ไหนใช้ทำกิจกรรมสำหรับกลางวัน และพื้นที่ไหนใช้ทำกิจกรรมสำหรับกลางคืน

          หลักแค่เพียงสองข้อที่กล่าวมาคือวิวและทิศทางลม ถ้าสามารถทำได้ครบสมบูรณ์ทั้งหมด ก็ถือว่าได้บรรลุตามหลักของฮวงจุ้ยในแง่ของแหล่งที่ตั้ง รับประกันได้ว่าเจ้าของอยู่สบาย จะซื้อจะขายคล่องตัวแน่นอนครับ


Thaihomeonline : บ้านมือสอง ขายบ้าน

วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แต่งคอนโดห้องเล็กอย่างไรไม่ให้อึดอัด




          ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนเมืองในปัจจุบันเริ่มย้ายออกจากบ้านมาอยู่คอนโดมิเนียม กันมากขึ้น ความกว้างขวางและมีที่ทางในการเดินยืดเส้นยืดสายรอบ ๆ บ้านได้ถูกชดเชยด้วยความสะดวกสบายจากการย้ายมาอยู่ตึกสูง ๆ ในทำเลที่อำนวยให้คุณไปทำงานหรือใช้ชีวิตได้สะดวกกว่า แต่ก็ต้องแลกกับการอยู่ในห้องที่มีพื้นที่จำกัด และดูคับแคบลงไปถนัดเมื่อเทียบกับบ้านหลังเดิม แต่เมื่อตัดสินใจเป็นเจ้าของห้องคอนโดเล็ก ๆ แล้ว ก็ต้องหาวิธีให้ให้ผู้อาศัยอย่างเรา ๆ อยู่กันได้อย่างสบายอกสบายใจไม่อุดอู้

1. ผสมผสานการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเตี้ยและสูง

          หัวใจสำคัญของการอยู่ให้สบายในห้องเล็ก ๆ คือต้องทำบรรยากาศของห้องไม่ให้เหมือนกำลังอยู่ในกล่อง เฟอร์นิเจอร์ชิ้นสูงใหญ่ทำให้ห้องดูแคบ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก ๆ เตี้ย ๆ ก็ทำให้รู้สึกว่าอยู่ในห้องผิดส่วนผิดขนาด แต่ถ้าลองนำมันมาจัดวางรวมกันอย่างพอดี ๆ ก็จะช่วยถ่วงดุลกันได้ และให้ความรู้สึกว่าห้องดูไม่คับแคบด้วย


2. ใช้สีตัดกันเพื่อสร้างความรู้สึก

          ในห้องเล็ก ๆ นั้นไม่อาจจัดแต่งด้วยของประดับมากชิ้นได้เพราะจะดูหนักห้องมากเกินไป ทดแทนรายละเอียดที่ไม่สามารถใส่ลงไปได้เหล่านั้น ด้วยการเลือกใช้ลวดลายของผนัง หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก ๆ ที่ตัดกับสีสันของห้อง อย่างบานประตูสีเหลืองสดกับห้องสีขาว หรือลวดลายแนวกราฟฟิกบนผนังก็ทำให้ห้องเล็ก ๆ ดูคูลขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งอื่น ๆ เพิ่มเลย

3. เลือกใช้เก้าอี้ไม่แบบไม่มีที่วางแขน

          เก้าอี้แบบไม่มีที่วางแขนนั้นเหมาะกับห้องเล็ก ๆ เป็นที่สุด เพราะมันทำให้ลุกนั่งสะดวกไม่ติดขัด ดูโปร่งกว่า ไม่เกะกะสายตา และยังกลมกลืนกับเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ได้ดีเมื่อยกย้ายไปที่บริเวณต่าง ๆ ของห้องด้วย

4. เตียงคิงไซส์

          ข้อนี้อ่านแล้วอาจจะนึกสงสัยว่าถ้าห้องเล็กแล้วทำไมถึงแนะนำให้ใช้เตียงคิง ไซส์ นั่นก็เพราะว่าแม้จะมีห้องเล็กแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเลือกใช้แต่ ของไซส์มินิเสมอไป การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นให้มีขนาดใหญ่ ก็สามารถเป็นการสร้างความโดดเด่นให้กับห้องได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นการพักผ่อนที่แสนสบายคือสิ่งที่คุณควรจะได้ไม่ว่าห้องจะเล็ก แค่ไหน เลือกเตียงใหญ่ ๆ ที่นอนได้สบาย และจัดวางเว้นออกจากผนังสักนิด สร้างพื้นที่การพักผ่อนที่ใคร ๆ ก็ต้องอิจฉาขึ้นมาในห้องแสนสุขของคุณ

แต่งคอนโดห้องเล็กอย่างไรไม่ให้อึดอัด

5. สร้างพื้นที่ใช้งานที่โดดเด่น

          ในห้องเล็ก ๆ โล่ง ๆ หากปล่อยให้พื้นที่ไหลมาเชื่อมกันหมดก็จะดูจืดชืดเกินไป คุณสามารถสร้างพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์เฉพาะด้านได้ด้วยใช้พรมปูพื้นเพื่อ แบ่งสัดส่วนการใช้งาน อย่างพรมผืนโต ๆ ที่บริเวณหน้าทีวี หรือที่มุมอ่านหนังสือ นอกจากทำให้พื้นที่ใช้งานตรงนั้นโดดเด่นขึ้นมา ห้องไม่ดูจืดชืดแล้ว ยังดูเป็นสัดส่วนดี และไม่คับแคบเหมือนการแบ่งพื้นที่ด้วยตู้ หรือชั้นวางของด้วย

6. ติดผ้าม่านจากเพดานลงมา

          ปกติเรามักติดรางผ้าม่านกันที่เหนือบขอบหน้าต่าง แต่หากเป็นห้องเล็ก ๆ และต้องการหลอกตาให้ดูใหญ่ขึ้นล่ะก็ ลองเปลี่ยนไปติดรางผ้าม่านที่สุดผนังชิดเพดานดู ผ้าม่านที่ทิ้งตัวเต็มผนังจากเพดานลงมา จะทำให้รู้สึกเหมือนมีหน้าต่างบานสูงใหญ่ ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้


7. ติดตั้งชั้นวางของเหนือแพนทรีเตรียมอาหาร

          ปกติพื้นที่เหนือแพนทรีมักกลายเป็นส่วนของตู้ลอยตัวเพื่อใช้เก็บจานชามและ อาหารแห้งต่าง ๆ แต่หน้าบานตู้ก็ชวนให้รู้สึกอึดอัดและคับแคบได้ หากลองเปลี่ยนเป็นติดตั้งชั้นเปลือยแทน ก็จะทำให้ดูโปร่งโล่งตาขึ้น และยังใช้วางข้าวของได้เช่นเดิม


8. ใช้เฟอร์นิเจอร์ทรงกลมมน

          เปลี่ยนจากการใช้เฟอร์นิเจอร์รูปเหลี่ยม หรือมีมุมเหลี่ยม เป็นเฟอร์นิเจอร์ทรงกลม ทรงรี หรือมีปลายโค้งมนแทน ก็จะช่วยลดทอนความรู้สึกเหมือนอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมได้ และยังให้ความรู้สึกอ่อนนุ่ม ไม่แข็งทื่อจนเกินไปอีกด้วย


9. ใช้ลายทางเพิ่มความยาว

          เพิ่มความยาวให้ห้องดูยืดออกไป ด้วยการการใช้เส้นสายในแนวยาว อย่างลวดลายแนวยาวที่ฝ้าเพดานหรือบนพื้นห้อง ทำให้ห้องดูสูงโปร่ง โล่งสบาย ไม่อึดอัดมากนัก


10. ใช้ประตูและหน้าบานกระจก

          อย่างที่กล่าวไว้ว่าหน้าบานมักทำให้ห้องรู้สึกทึบตัน ถ้าอย่างนั้นลองเปลี่ยนมาเป็นหน้าบานกระจก ไม่ว่าจะเป็นหน้าบานของตู้เก็บของ หรือประตูของส่วนวอล์ค-อิน โคลเซ็ท เมื่อพื้นที่แคบ ๆ ได้แสงสว่างส่องทั่วถึง และห้องมีประกายความแวววาวจากเงาสะท้อนของกระจก ก็ช่วยให้รู้สึกโปร่งโล่งขึ้นได้ดีทีเดียว ใครที่เป็นเจ้าของห้องเล็ก ๆ และอยากจะทำให้มันดูโปร่งโล่ง อยู่สบายขึ้น อย่าลืมนำไปใช้กันดูนะครับ