วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แต่งคอนโดห้องเล็กอย่างไรไม่ให้อึดอัด

http://upicy.com/image-085C_51CA9444.jpg

1. ผสมผสานการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเตี้ยและสูง
หัวใจ สำคัญของการอยู่ให้สบายในห้องเล็ก ๆ คือต้องทำบรรยากาศของห้องไม่ให้เหมือนกำลังอยู่ในกล่อง เฟอร์นิเจอร์ชิ้นสูงใหญ่ทำให้ห้องดูแคบ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก ๆ เตี้ย ๆ ก็ทำให้รู้สึกว่าอยู่ในห้องผิดส่วนผิดขนาด แต่ถ้าลองนำมันมาจัดวางรวมกันอย่างพอดี ๆ ก็จะช่วยถ่วงดุลกันได้ และให้ความรู้สึกว่าห้องดูไม่คับแคบด้วย

2. ใช้สีตัดกันเพื่อสร้างความรู้สึก
ใน ห้องเล็ก ๆ นั้นไม่อาจจัดแต่งด้วยของประดับมากชิ้นได้เพราะจะดูหนักห้องมากเกินไป ทดแทนรายละเอียดที่ไม่สามารถใส่ลงไปได้เหล่านั้น ด้วยการเลือกใช้ลวดลายของผนัง หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก ๆ ที่ตัดกับสีสันของห้อง อย่างบานประตูสีเหลืองสดกับห้องสีขาว หรือลวดลายแนวกราฟฟิกบนผนังก็ทำให้ห้องเล็ก ๆ ดูคูลขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องอาศัยการตกแต่งอื่น ๆ เพิ่มเลย

3. เลือกใช้เก้าอี้ไม่แบบไม่มีที่วางแขน
เก้าอี้ แบบไม่มีที่วางแขนนั้นเหมาะกับห้องเล็ก ๆ เป็นที่สุด เพราะมันทำให้ลุกนั่งสะดวกไม่ติดขัด ดูโปร่งกว่า ไม่เกะกะสายตา และยังกลมกลืนกับเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ได้ดีเมื่อยกย้ายไปที่บริเวณต่าง ๆ ของห้องด้วย

4. เตียงคิงไซส์
ข้อ นี้อ่านแล้วอาจจะนึกสงสัยว่าถ้าห้องเล็กแล้วทำไมถึงแนะนำให้ใช้เตียงคิงไซส์ นั่นก็เพราะว่าแม้จะมีห้องเล็กแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเลือกใช้แต่ ของไซส์มินิเสมอไป การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นให้มีขนาดใหญ่ ก็สามารถเป็นการสร้างความโดดเด่นให้กับห้องได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นการพักผ่อนที่แสนสบายคือสิ่งที่คุณควรจะได้ไม่ว่าห้องจะเล็ก แค่ไหน เลือกเตียงใหญ่ ๆ ที่นอนได้สบาย และจัดวางเว้นออกจากผนังสักนิด สร้างพื้นที่การพักผ่อนที่ใคร ๆ ก็ต้องอิจฉาขึ้นมาในห้องแสนสุขของคุณ

5. สร้างพื้นที่ใช้งานที่โดดเด่น
ใน ห้องเล็ก ๆ โล่ง ๆ หากปล่อยให้พื้นที่ไหลมาเชื่อมกันหมดก็จะดูจืดชืดเกินไป คุณสามารถสร้างพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์เฉพาะด้านได้ด้วยใช้พรมปูพื้นเพื่อ แบ่งสัดส่วนการใช้งาน อย่างพรมผืนโต ๆ ที่บริเวณหน้าทีวี หรือที่มุมอ่านหนังสือ นอกจากทำให้พื้นที่ใช้งานตรงนั้นโดดเด่นขึ้นมา ห้องไม่ดูจืดชืดแล้ว ยังดูเป็นสัดส่วนดี และไม่คับแคบเหมือนการแบ่งพื้นที่ด้วยตู้ หรือชั้นวางของด้วย

6. ติดผ้าม่านจากเพดานลงมา
ปกติ เรามักติดรางผ้าม่านกันที่เหนือบขอบหน้าต่าง แต่หากเป็นห้องเล็ก ๆ และต้องการหลอกตาให้ดูใหญ่ขึ้นล่ะก็ ลองเปลี่ยนไปติดรางผ้าม่านที่สุดผนังชิดเพดานดู ผ้าม่านที่ทิ้งตัวเต็มผนังจากเพดานลงมา จะทำให้รู้สึกเหมือนมีหน้าต่างบานสูงใหญ่ ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้

7. ติดตั้งชั้นวางของเหนือแพนทรีเตรียมอาหาร
ปกติ พื้นที่เหนือแพนทรีมักกลายเป็นส่วนของตู้ลอยตัวเพื่อใช้เก็บจานชามและอาหาร แห้งต่าง ๆ แต่หน้าบานตู้ก็ชวนให้รู้สึกอึดอัดและคับแคบได้ หากลองเปลี่ยนเป็นติดตั้งชั้นเปลือยแทน ก็จะทำให้ดูโปร่งโล่งตาขึ้น และยังใช้วางข้าวของได้เช่นเดิม

8. ใช้เฟอร์นิเจอร์ทรงกลมมน
เปลี่ยน จากการใช้เฟอร์นิเจอร์รูปเหลี่ยม หรือมีมุมเหลี่ยม เป็นเฟอร์นิเจอร์ทรงกลม ทรงรี หรือมีปลายโค้งมนแทน ก็จะช่วยลดทอนความรู้สึกเหมือนอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมได้ และยังให้ความรู้สึกอ่อนนุ่ม ไม่แข็งทื่อจนเกินไปอีกด้วย

9. ใช้ลายทางเพิ่มความยาว
เพิ่ม ความยาวให้ห้องดูยืดออกไป ด้วยการการใช้เส้นสายในแนวยาว อย่างลวดลายแนวยาวที่ฝ้าเพดานหรือบนพื้นห้อง ทำให้ห้องดูสูงโปร่ง โล่งสบาย ไม่อึดอัดมากนัก

10. ใช้ประตูและหน้าบานกระจก
อย่าง ที่กล่าวไว้ว่าหน้าบานมักทำให้ห้องรู้สึกทึบตัน ถ้าอย่างนั้นลองเปลี่ยนมาเป็นหน้าบานกระจก ไม่ว่าจะเป็นหน้าบานของตู้เก็บของ หรือประตูของส่วนวอล์ค-อิน โคลเซ็ท เมื่อพื้นที่แคบ ๆ ได้แสงสว่างส่องทั่วถึง และห้องมีประกายความแวววาวจากเงาสะท้อนของกระจก ก็ช่วยให้รู้สึกโปร่งโล่งขึ้นได้ดีทีเดียว ใครที่เป็นเจ้าของห้องเล็ก ๆ และอยากจะทำให้มันดูโปร่งโล่ง อยู่สบายขึ้น อย่าลืมนำไปใช้กันดูนะครับ



By http://www.cmc.co.th/files/picture/activity/thumb/activity-thumb-1-1341473491.jpg

ตู้ปลาติดผนัง นวัตกรรมแปลกใหม่เพื่อคนรักปลา

จาก ตู้ปลาสี่เหลี่ยมที่เราคุ้นเคย  ตู้ปลาติดผนังเป็นอีกนวัตกรรมหนึ่งซึ่งดัดแปลงความจำเจให้กลายเป็นความสวย งามแปลกตา และใช้พื้นที่ในบ้านได้อย่างคุ้มค่า

http://www.homedecorthai.com/uploads/editor/images/Knowledge_article/1281/homedecorthai-20120127141737-1352543515.jpg


ตู้ปลาเป็นภาชนะที่สำคัญในการใช้เลี้ยงปลา รูปทรงโดยทั่วไปเป็นสี่เหลี่ยม  จะมีบ้างที่เป็นโหลแก้ว เป็นอ่างน้ำ การนำปลาลงไปเลี้ยงในตู้ปลามีข้อดีคือ  สามารถเห็นตัวปลาได้ทั้ง 4 ด้าน เห็นความสวยงามของการตกแต่งภายในตู้ปลา  ส่วนข้อเสียคือต้องสิ้นเปลืองการใช้เนื้อที่วางตู้ เกะกะห้อง เวลาทำความสะอาดจะยุ่งยากและใช้เวลานาน

"ตู้ ปลาติดผนัง (Wall Aquarium) ถือเป็นนวัตกรรมของการเลี้ยงปลาสวยงาม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่มีรสนิยมแบบคลาสสิค และต้องการความแปลกใหม่ เพราะนอกจากจะใช้ประโยชน์เพื่อการเลี้ยงปลาสวยงามแล้ว ยังสามารถใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับห้องได้ในคราวเดียว

ตู้ ปลาแบบ เดิมที่มีกระจกรอบ 4 ด้าน เวลาทำความสะอาดต้องทำทั้งหมดทุกด้าน การเปลี่ยนน้ำต้องถ่ายน้ำเก่าออกให้หมดก่อน ต้องย้ายปลาจากตู้ หนึ่งไปไว้อีกที่หนึ่ง พอล้างตู้เสร็จก็ต้องย้ายปลากลับมาไว้ที่เดิม อีกทั้งบริเวณรอบตู้ปลามีน้ำจากการเปลี่ยนถ่ายเลอะเทอะ กว่าจะเสร็จต้องใช้เวลานาน

แต่ ตู้ปลาติดผนังไม่ต้องนำของใดๆ รวมทั้งปลาในตู้ออกเลย เพียงถ่ายน้ำออกให้เหลือน้ำในตู้ปลาเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ด้วยชุดอุปกรณ์ที่มีแถมไปให้ แล้วจึงนำน้ำใหม่ใส่เข้าไปก็ เป็นอันเสร็จ ง่ายนิดเดียว ไม่สกปรกเลอะเทอะ และใช้เวลาไม่มาก


จุด ประสงค์ในการออกแบบตู้ปลาติดผนังก็เพื่อให้เกิดความแปลก เป็นที่สะดุดตาและแตกต่าง ดังนั้น การออกแบบจึงมุ่งเน้นให้มีหลายสไตล์ หลายบรรยากาศเหมาะกับทุกห้องในบ้าน สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ที่จะนำไป ติดตั้งไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัวหรือแม้แต่ในห้องน้ำ พร้อมกันนั้นยังออกแบบอุปกรณ์การติดตั้งให้สะดวก และง่ายเหมาะสมกับการติดตั้งด้วยตัวเองหากต้องการปรับเปลี่ยนใหม่



วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คู่มือประหยัดพลังงานและ วิธีลดโลกร้อน ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน ในคอนโด





ปัจจุบัน โลกของเราร้อนขึ้นทุกวัน ๆ ส่งผลให้คนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านได้นาน ๆ เหมือนแต่ก่อน ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เทคโนโลยีอย่างเช่น แอร์ พัดลม ช่วยเพิ่มความเย็น ให้บ้าน หรือคอนโดของ เรา และยิ่งโลกร้อนขึ้นเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนว่า ผู้คนบนโลกยิ่งใช้พลังงานทำลายชั้นบรรยากาศของโลกมากขึ้นเท่านั้น

พลังงานความร้อนและไฟฟ้า
            1. ติดตั้งฉนวนกันความร้อนบนฝ้าเพดานบ้าน เพื่อลดความร้อนและทำให้บ้านเย็น
            2. ตั้งตู้เย็นไว้ในที่ที่ใกล้กับประตูหน้าต่าง เพื่อความร้อนที่ระบายออกมาจะได้ไม่สะท้อนกลับไปในห้องครัว และยังช่วยประหยัดไฟอีกด้วย
            3. ในฤดูหนาวควรเปิดหน้าต่างให้ความเย็นเข้ามาในห้องตอนกลางคืน และปิดหน้าต่างตอนเช้า เพื่อให้ความเย็นภายในห้อง ไม่ถูกแทนที่ด้วยความร้อนจากแสงแดดตอนกลางวัน
            4. คุณสามารถลดความร้อนในบ้านได้ถึง 50% หากติดกระจกแบบสองชั้น เพราะจะสามารถกันความร้อนได้ และช่วยคุณประหยัดไฟฟ้าได้อีก
            5. เปิดแอร์ที่ 25 องศาเสมอ เพราะเป็นอุณหภูมิที่สบายที่สุด ที่คุณไม่ต้องนอนห่มผ้าตากแอร์เลย
            6. ติดตั้งระบบไฟฟ้าหมุนเวียนภายในบ้าน
            7. เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเกรด A ที่ไม่กินไฟ
            8. เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟฟ้าแบบประหยัดไฟ
            9. อย่าใช้เครื่องปั่นผ้าในวันที่ฟ้าใส และแดดจัด เพราะอุณหภูมิของโลก สูงพอจะทำให้ผ้าแห้งได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงอยู่แล้ว
            10. เสื้อผ้าน้อยชิ้นควรซักเองด้วยมือ ส่วนเครื่องซักผ้าควรใช้ในวันที่มีเสื้อผ้าเต็มตะกร้า
            11. หากคุณต้องเปิดไฟในสวนหน้าบ้านทุกคืน ควรใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ชาร์จพลังงานตอนกลางวัน และเปิดไฟตอนกลางคืน
            12. ถอดสายชาร์จโทรศัพท์มือถือออกจากเบ้าเสียบทุกครั้งที่ชาร์จเสร็จ เพราะมันกินไฟโดยเปล่าประโยชน์

พลังงานน้ำ
            13. ตรวจสอบรอยรั่วของท่อประปา หรือรอยรั่วก๊อกน้ำแล้วอุดรอยรั่วนั้นให้เรียบร้อย อย่าปล่อยให้มันหยดทิ้งแม้น้อยนิดก็ตามที
            14. หากคุณจะต้มน้ำ ควรใช้หม้อต้มน้ำที่พอดีกับปริมาณน้ำที่ต้องการใช้ เพราะขนาดภาชนะที่ใหญ่เกินไป มักจะทำให้เราใช้น้ำเกินความต้องการเสมอ
            15. เวลาที่ชงชา ต้มน้ำในปริมาณที่คุณจะใช้เท่านั้น แม้มันจะดูน้อยนิดเกินไป แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยให้น้ำร้อนที่เหลือจากการชงชาค่อย ๆ เย็นโดยไม่ได้ใช้อะไรเลย
            16. ปิดก๊อกน้ำทุกครั้งขณะที่คุณกำลังแปรงฟัน
            17. ใช้ถังชักโครกที่ประหยัดน้ำ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเปลืองน้ำไปกับการชำระล้างโถส้วม เกินความจำเป็น
            18. ใช้ฝักบัวอาบน้ำแทนการนอนแช่น้ำในอ่าง เพราะมันเปลืองน้ำกว่ามาก ๆ

อาหารและตู้เย็น
            19. ตั้งตู้เย็นให้ห่างจากผนังด้านละประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อให้ได้ระบายความร้อนได้สะดวก
            20. ละลายน้ำแข็งในตู้เย็นเป็นประจำ
            21. อย่าเปิดตู้เย็นทิ้งไว้เป็นเวลานานเกินไป เพราะจะทำให้ความเย็นระบายออกมาหมดและทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก กินไฟมาก
            22. ไม่ควรนำอาหารอุ่น ๆ หรือร้อนแช่ตู้เย็นเป็นอันขาด ควรวางไว้ให้เย็นก่อนแล้วค่อยนำเข้าตู้เย็นอีกครั้ง
            23. ซื้ออาหารที่มีในท้องถิ่น เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องซื้อในปริมาณเยอะ ๆ แล้วนำมาตุนไว้ในช่องแช่แข็งจนไม่มีที่ว่าง

พลังงานขณะขับรถ
            24. วางแผนการเดินทางทุกครั้งก่อนออกรถ เพื่อจะได้ไม่ต้องขับวนไปวนมาคิดซ้ายคิดขวาว่าจะไปทางไหนดี
            25. ขับรถด้วยความเร็วที่คงที่เสมอ ที่สำคัญไม่ควรขับเร็วเกินความจำเป็นด้วย
            26. ควรสตาร์ทเครื่องยนต์ไว้สักครู่ ก่อนออกรถ
            27. ในกรณีที่รถติดไฟแดงในแยกที่รถติดนานกว่า 2 นาทีขึ้นไป ควรดับเครื่องยนต์ก่อนแล้วค่อยสตาร์ทใหม่
            28. ไม่ควรเปิดแอร์ในรถเย็นเกินไป ใช้อุณหภูมิที่พอเหมาะเท่านั้น
            29. หากต้องเดินทางไปสถานที่ใกล้ ๆ ที่ห่างจากบ้านไม่เกิน 5 กิโลเมตร ควรใช้วิธีเดินหรือปั่นจักรยานดีกว่า
            30. อุปกรณ์แต่งรถหลาย ๆ อย่าง สามารถกินพลังงานเกินความจำเป็นได้ เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องบอกทาง เป็นต้น
            31. นำรถเข้าอู่เป็นประจำ เพื่อเช็คสภาพและการทำงานต่าง ๆ ของรถ

พลังงานขณะทำงาน
            32. แม้ว่าคุณจะไม่ได้จ่ายค่าไฟที่ทำงานเอง แต่ก็ควรใช้ไฟเท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยปิดไฟดวงที่ไม่ใช้หรือในห้องที่ไม่มีใครอยู่ เพื่อช่วยโลกประหยัดไฟ
            33. ปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์เมื่อคุณต้องลุกออกไปที่ไหนนาน ๆ เช่น ทานข้าว ไปประชุม หรือแม้แต่ออกไปยืดเส้นยืดสาย
            34. ใช้กระดาษทั้งสองหน้า อย่าใช้เพียงด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น
            35. หากสามารถเปิดหน้าต่างได้ ควรหลีกเลี่ยงการเปิดแอร์ในวันที่อากาศสบาย ๆ
            36. ควรใช้ลิฟต์ในออฟฟิศพร้อม ๆ กับคนอื่น ขณะเดียวกัน คุณสามารถเดินขึ้นบันไดได้หากห้องทำงานของคุณไม่ได้อยู่สูงถึงชั้น 7
            37. สำหรับข้อมูลบางอย่างที่สามารถอ่านผ่านคอมพิวเตอร์ได้ บางครั้งคุณก็ไม่จำเป็นต้องปรินท์เอาท์ออกมา

และ นี่ก็คือวิธีง่าย ๆ ในการช่วยลดโลกร้อนที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ทำได้ ดังนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตระหนักถึงคุณค่าของพลังงานและภาวะโลกร้อน เริ่มต้นประหยัดพลังงานกันตั้งแต่วันนี้นะคะ อย่างน้อย ๆ ก็ช่วยยืดเวลาให้โลกไม่ร้อนไปกว่านี้ได้ไม่น้อยเลยล่ะ



By http://www.cmc.co.th/files/picture/activity/thumb/activity-thumb-1-1341473491.jpg

ระแนงไม้ ช่วยบังแดด

 

หากคุณมีพื้นที่หน้าบ้าน เหลือว่าง ไม่ได้ใช้ประโยชน์กับพื้นที่ดังกล่าวมากนัก อาจเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว ไม่ได้ให้ร่มเงา ที่เหมาะสมกับการนั่งเล่นในยามกลางวัน ระแนงหลังคาบังแดด เป็นอีกคำตอบหนึ่ง ที่จะช่วยให้พื้นที่หน้าบ้านของคุณ เติมเต็มความต้องการของสมาชิกภายในบ้าน อีกทั้งยังให้ความรู้สึกแตกต่างจากหลังคาชนิดอื่นๆ ที่ดูแข็งกระด้าง เมื่อเทียบกับระแนงไม้ ดูอ่อนโยนเป็นธรรมชาติกว่าวัสดุชนิดอื่นๆ

โดย ปกติแล้ว ระแนงไม้ ที่มีขายทั่วไป มักมีขนาดไม่ยาวมากนัก สถาปนิก จึงออกแบบแบ่งระแนงออกเป็นชุด อีกทั้งยังปรับรูปทรงให้โค้งงอนด้วยโครงสร้างเหล็ก เนื่องด้วยแผงระแนงที่แบ่งเป็นชุด จึงทำให้สามารถปรับตามระดับโค้งของคานเหล็กได้ ประโยชน์ของระแนง ไม่เพียงแค่บังแดด แต่ยังสามารถใช้เป็นกันสาด ระแนงไม้เลื้อย และเป็นลานกิจกรรมเล็กๆ สำหรับเด็กๆ หรือสมาชิกภายในครอบครัว แบบภาพตัวอย่างนี้ เป็นการออกแบบให้กับ สถานรับเลี้ยงเด็ก แต่สามารถนำไอเดียไปประยุกต์ใช้กับบ้าน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบัน วัสดุ ระแนงไม้ ได้มีการผลิตที่ทันสมัยมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องใช้ไม้แท้เสมอไป อีกทั้ง ยังให้ความคงทนแข็งแรงกว่าอีกด้วย เช่น ไม้สังเคราะห์ ไฟเบอร์ซีเมนต์ มีให้เลือกหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น ไม้คอนวูด สมาร์ดวูดตราช้าง อีกทั้ง ไม้เทียมเหล่านี้ ยังให้สีสันที่แตกต่าง โดยส่วนใหญ่แล้วมีให้เลือกหลายลาย เช่น สีงาช้าง สีโอ็ค ลายธรรมชาติ สีซีเมนต์ ความยาวอยู่ที่ ประมาณ 3 เมตร ส่วนความหนา ก็มีให้เลือกขนาดได้ตามความเหมาะสมเช่นกัน




Thaihomeonline : บ้านมือสอง ขายบ้าน

วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คอนโดวิมานผัก...ของคนเมือง สวนเกษตรลอยฟ้า



พืชผักเมืองไทย ปลูกง่าย โตเร็ว กินอร่อย แม้คนอยู่ตึก มีมุมน้อยนิดบนคอนโด ก็ปลูกผักหญ้ากินเองได้ เป็นแนวคิดที่ไม่ใหม่ เพราะมีผู้ริเริ่มและรณรงค์มานานแล้ว แต่ไฉนคนเมืองอยู่แต่ตึกไม่สนใจสีเขียวที่กินได้ในชีวิตจริง โครงการ สวนผักคนเมือง จึงกำเนิดขึ้นโดยผู้ปรารถนาดี อยากให้คนไทยรู้จักปลูกผักกินเอง ใส่ใจในธรรมชาติ กลับมามองของจริงที่จับต้องได้ นอกจากโครงการที่ว่านี้ยังมีมูลนิธิต่างๆ ได้แก่ เอ็นจีโอ สสส. และกลุ่มคนตัวน้อยที่ชวนคนเมืองมาปลูกผัก สร้างเป็นเครือข่ายวิถีเกษตรคนเมือง นอกจากนี้ คนที่อยู่ตึกแต่อยู่นอกเขตกรุงเทพฯ และในต่างจังหวัด สามารถเข้าร่วมกิจกรรม ฟังอบรมวิธีปลูกผักในเนื้อที่จำกัด จนถึงปลูกข้าวในล้อยางและบ่อซีเมนต์ เขาก็ทำกันมาเห็นผล เป็นเรื่องจริงน่าทึ่งว่า ไม่มีนาข้าวก็ปลูกข้าวกินเองได้...

กลุ่ม คนเล็ก ๆ ที่รักผัก อาทิเช่น มูลนิธิศูนย์สื่อเพื่อการพัฒนา โดย คุณสรานนท์ ใยบำรุง จากวารสาร 'เกษตรกรรมธรรมชาติ' และ กรชชนก หุตะแพทย์ ที่รับหน้าที่เป็นวิทยากรอบรมโครงการสวนผักคนเมือง จัดเป็นประจำเดือนละ 2 ครั้ง บอกเล่าที่มาของโครงการและประโยชน์จากการปลูกผักไว้กินเอง ที่ต้องลงมือ ลงแรง และลงเงินเพียงเล็กน้อย แต่เก็บเกี่ยวผลพวงมหาศาล

"โครงการ นี้เริ่มเมื่อปีที่แล้ว จากงานมหกรรมสมุนไพรครั้งที่ 6 ได้ไปออกบูธแนะนำการเกษตรเพื่อคนเมือง ถึงตอนนี้คนเริ่มรู้จักบ้างแล้ว เช่น คุณนคร (ฉายาเจ้าชายผัก) ทำเกษตรกรรมยั่งยืน เป็นที่รู้จัก...และทำงานร่วมกับมูลนิธิด้วย พอ สสส.เข้ามาก็อยากนำโครงการนี้มารณรงค์สร้างแนวคิดให้คนเมือง ชุมชนต่าง ๆ ให้แพร่หลายขึ้น ให้มองเห็นภาพว่าการเกษตรคนเมืองก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องมีที่นา หลายคนที่คิดว่า การเกษตรหมายถึงคนชนบท ผมว่าแนวคิดของคนเมืองที่ไปยึดติดกับการเกษตรแบบเดิม ๆ ว่าทำเกษตร ปลูกผักต้องมีพื้นที่ ต้องคนชนบทเท่านั้นควรเลิกคิดได้แล้ว เพราะเราลืมนึกถึงเรื่องการบริโภค ไม่ได้หมายถึงว่าเรากินมากหรือกินน้อย แต่คนเมืองมักคิดว่าซื้อเอาสะดวกกว่า ง่ายกว่า แต่เมื่อใดที่เราได้ลงมือกระทำ ปลูกผักด้วยตัวเอง และเก็บเกี่ยวผลผลิตเราจะเกิดความรู้สึกเป็นสุขที่ได้ทำ ได้เรียนรู้ ได้รู้จักธรรมชาติ"

ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเลย กระทั่งคนอยู่คอนโด มีพื้นที่ระเบียงเพียงน้อยนิดก็ปลูกผักลงกระถางได้ โครงการสวนผักคนเมือง จะสอนตั้งแต่วิธีปลูก บำรุงดิน รดน้ำ และสร้างแนวคิดใหม่ที่ทำให้คนอยู่ตึกนึกถึงการปลูกผักและเก็บกิน มีความสุขทางใจเหนือกว่าคำอธิบายใด ๆ

"คน มีพื้นที่ที่เรียกว่าน้อย ที่สุด แค่มุมข้างตึกก็ปลูกผักลงกระถางประเภทตัดใบกิน ตั้งแต่ผักพื้นบ้าน ผักจีน มีวิธีคิดแบบเรียบง่ายที่สุดคือ เลือกปลูกผักที่เรากินในชีวิตประจำวัน  อะไรที่เรากินบ่อย ๆ หรือเวลาทำกับข้าวเราใช้ผักอะไร เช่น พริก กะเพรา ผักชี ต้นหอม โหระพา เวลาเราต้มบะหมี่เราใส่อะไรก็เด็ดมา ต้นหอม ผักชี ใส่แกงจืด ตัดมา 1-2 ต้น ก็ได้แล้ว 1 จาน เราสามารถปลูกลงกระถางและตัดใบกินได้ตลอด ส่วนการรดน้ำแนะนำให้ใช้หัวฉีด (Foggy) เพื่อรักษาความชื้นของดิน วิธีนี้ง่ายที่สุด หรือต่อสายน้ำให้ค่อย ๆ หยด เรียกว่าระบบน้ำหยด ที่กำหนดเวลาได้เช่น สัก 5 นาทีหยด หรือนาทีละหยด ส่วนปุ๋ย ปกติพืช 15 วันใส่ปุ๋ยสัก 1 ครั้ง ต่อพื้นที่ 1 ตรม. ใส่ปุ๋ย 1-2 กำมือ ไม่กี่วันก็ได้กินผักที่ชอบแล้ว เวลากินก็ตัดใบมา ประเดี๋ยวผักก็จะงอกขึ้นมาใหม่ วิธีนี้เป็นการปลูกผักที่เนื้อที่น้อยที่สุด และเป็นการบริหารจัดการน้ำ ทำให้พื้นที่ไม่แฉะ และไม่มีปัญหากับเพื่อนบ้าน เวลารดน้ำ น้ำก็ไม่ไหลลงชั้นล่าง

 ถ้า มีพื้นที่มากขึ้นหน่อย การปลูก ผักกางมุ้ง ก็ทำได้ ไม่ใช่ผักไฮโดรโพนิกนะ มุ้งไว้กันแมลงแต่ต้องอาศัยช่างฝีมือต่อโครงสร้าง เป็นผักปลูกในดินหรือผักกระถางตั้งไว้ ใส่น้ำในสายยาง กำหนดเวลาน้ำหยด  เนื้อที่ประมาณ 1 ม. x 2 ม. ก็พอปลูกได้แล้ว หรือปลูกในล้อยางเก่า ๆ ไปขอเขามาตามร้านยาง เขาให้เลย ลงทุนไม่เกิน 20 บาท ค่าดิน ใช้ล้อยางเก่า บ่อซีเมนต์ ก็ปลูกผักได้"

เรื่อง ของปุ๋ยบำรุงดินก็ไม่ยาก วิธีที่ประหยัดที่สุดคือใช้เศษอาหารในบ้าน ผสมขี้วัว แกลบ คลุกเคล้าแล้วหมักไว้ เป็นปุ๋ยธรรมชาติไม่ต้องเสียเงิน คุณภาพก็ดี

"เศษ อาหารตั้งแต่เศษข้าว กระดูก ผักผลไม้ เตรียมทำปุ๋ยโดยผสมกับดินเหนียว สับ ๆ กันคลุกเคล้า หรือใบก้ามปูมาเทรวมกับขี้วัว สับ ๆ ไว้ เอาฟางปูไว้แล้วรดน้ำทิ้งไว้ 1 คืน แต่ถ้าขี้เกียจทำซื้อปุ๋ยสำเร็จรูปมาก็ได้ เวลามีคนมาอบรมเราก็ให้มาดูภาพจริง วิธีปลูก เตรียมดิน และรู้จักนิสัยของผักแต่ละชนิด โดยมีหลักคิดง่าย ๆ เล็ก ๆ อย่าไปมองภาพกว้าง อยากให้ว่าปลูกผักกินเองได้กินผักปลอดสารเคมี สุขภาพเราก็ดี ลดค่าใช้จ่ายซื้อผัก แม้ผักจะถูกแต่ถ้าเราต้องซื้อบ่อย ๆ ก็เป็นเงินไม่น้อย อีกอย่างคือช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว และทำให้พื้นที่แม้จะน้อยให้เกิดประโยชน์ที่กินได้ด้วย เป็นโมเดลของการพึ่งตนเอง"
โดย วัตถุประสงค์หลักของโครงการสวนผักคนเมือง คือ 1. อยากให้คนไทยกินผักสะอาด เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่สุด  2.ลดรายจ่ายที่บ้าน  3.ใช้เวลาว่างในครอบครัว  และ 4. เพิ่มพื้นที่สีเขียว
"คนที่ เข้าอบรมอย่างแรกคืออยากให้เปลี่ยนแนวคิด ตามด้วยพฤติกรรม เราขอเวลาก่อนไปทำงาน 5 นาที เช้าและเย็นหรือก่อนนอน รดน้ำ แค่ 5 นาทีเท่านั้น หรือใช้เวลาวันหยุดปรับพื้นดิน เพาะกล้า ปลูกผัก ส่วนเมล็ดพันธุ์เราสามารถเก็บจากผักที่เราปลูกนั่นแหละ ปลูกไป 5 ต้น เก็บเมล็ดได้ไม่รู้กี่เม็ดกี่ฝัก เวลาออกผลมาสองผลสองผลก็เก็บได้ 20-30 เม็ดแล้ว วิธีเก็บที่บ้าน ๆ ที่สุดคือใส่ซองเปล่ามาม่า แช่ตู้เย็นไว้ เก็บได้ 2 ปี ถ้านานกว่านั้นผลของการงอกจะลดลง พวกเมล็ดพันธุ์ที่เขาขายจะปลูกได้ครั้งเดียวเก็บเมล็ดไปปลูกต่อไม่ได้

เขา มีวิธีตัดแต่งทำให้เราต้องซื้อเมล็ดพันธุ์เขาบ่อย ๆ หรือถ้ามาอบรมเราแจกเมล็ดพันธุ์ฟรี ๆ  หรือเวลาไปต่างจังหวัดขอเพื่อนบ้านได้ ต่อไปเราอยากสร้างแนวคิดสวนแนวตั้ง เอาผักเลื้อยขึ้นไปปลูก และการปลูกผักบนดาดฟ้า จนถึงคนเมืองที่อยู่ในชุมชนหรือสลัม พื้นที่แออัดก็สามารถปลูกผักกินเองได้ เอาหลักคิดง่าย ๆ เช่น จะทำต้มยำแค่เดินไประเบียงเด็ดพริก เด็กผักมาใส่ จะผัดผักก็ไปตัดใบมากิน ผักเราไม่ปนเปื้อนสารเคมีด้วย หรือเราใช้พริกไม่กี่เม็ดแต่ต้องเสียสตางค์ซื้อ 5-6 บาท ก็เป็นเงินแล้ว หรือบางทีซื้อมาใช้แค่ไม่กี่เม็ด ที่เหลือเก็บใส่ตู้เย็น ลืมกิน สองวันก็เน่าหมด เราตัดวงจรการเดินออกไปนอกบ้านและงดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น

อยาก ให้คิดง่าย ๆ เช่น ใน 1 วัน เรากินผักกี่บาท ถ้าตกบ้านละ 50 บาท 1 ปีเป็นเงินเท่าไหร่ เราอาจเห็นเป็นเรื่องเล็กแต่ถ้าเอารายจ่ายค่าผักมาบวกกันทั้งปี กลายเป็นเงินค่าเทอมลูก..."

สนใจโครงการสวนผักคนเมือง สอบถามตารางอบรมวิธีปลูกผักและการบำรุงรักษา โทร. 0-2617-0832

///////////////////////////

ศูนย์อบรมโครงการสวนผักคนเมือง
- ศูนย์เรียนรู้เกษตรในเมือง สาขาเจ้าชายผัก โดยนคร ลิมปคุปตถาวร ลาดพร้าว 71 โทร. 08-1867-2042
- ศูนย์เรียนรู้การทำเกษตรในเมือง ศูนย์สุวรรณภูมิ โทร. 08-5090-2283
- สวนผักบ้านคุณตา สุขุมวิท 62 โทร. 08-9669-9249, 0-2617-0832
- สวนเกษตรดาดฟ้า สำนักงานเขตหลักสี่ โทร. 0-2576-1393
- โรงเรียนอิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย โทร. 08-4774-3220
- ติดตามข่าวสารข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sathai.org

สวนผักเป็นจริง ฝีมือคนเมือง ได้แก่
** ผักกระถาง : การปลูกผักไม่จำเป็นต้องลงดินเสมอไป มีกระถางเล็ก ๆ กะละมัง ภาชนะอื่น ๆ ก็ปลูกผักกินเองได้ ขั้นตอนคือ
1. เตรียมกระถาง กระบะ ลึกอย่างน้อย 30 ซม.
2  ส่วนผสมปุ๋ย ดิน 1 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่วน แกลบดำ 1 ส่วน ผสมใส่ในกระถาง
3. ขุดดินในกระถางให้เป็นรูตรงกลาง นำกล้าผักมาใส่ กลบด้วยดินปลูก
4. นำกระถางวางไว้ที่ที่โดนแดดอย่างน้อย 1/2 วัน รดน้ำเช้าเย็น
5. ใช้น้ำหมักชีวภาพผสมน้ำ รดทุก 3 วัน เมื่อผักโตก็ตัดกินได้

ส่วนผสมดินปลูก : ดินร่วน 1 ส่วน ปุ๋ยหมัก (ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยชีวภาพ) 1 ส่วน ขี้เถ้าแกลบหรือขุยมะพร้าว 1 ส่วน
** ผักกางมุ้ง มีตั้งแต่ขนาดเล็กถึงใหญ่ ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่
** ผักบนล้อยางและบ่อซีเมนต์ ปลูกได้ตามขนาดพื้นที่
** สวนครัวลอยฟ้า หรือปลูกบนดาดฟ้า ควรเป็นผักรากสั้น ลึกไม่เกิน 10 ซม. เช่น ผักบุ้งจีน กวางตุ้ง ผักกาดหอม โหระพา กะเพรา ควรเลือกผักที่ชอบอากาศเย็นเพราะจะโดนลมโกรกทำให้ความชื้นลดลง อีกทั้งบริเวณพื้นที่ชั้นบนของตัวตึกมีอุณหภูมิรอบตัวต่ำกว่าพืชที่ปลูกบน ดิน หรือปลูกผักในห้องปรับอากาศ ควรเลือกปลูกผักนอกฤดูกาล เช่น ปวยเล้ง ตั้งโอ๋ พริกยักษ์ ข้อควรระวังคือความชื้นจะระเหยไปอย่างรวดเร็วจึงควรหมั่นรดน้ำอยู่เสมอ

เคล็ด ลับปลูกผักให้ได้ผลดี: ผักจีน ผักฝรั่ง เหมาะกับฤดูหนาว ส่วนผักพื้นบ้านปลูกได้ทุกฤดูกาล ควรปลูกดอกไม้สีสดใสในแปลงผักเพื่อล่อแมลงที่เป็นประโยชน์ และปลูกผักหลายชนิดหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาล การคลุมดินด้วยเศษพืชจะช่วยรักษาความชุ่มชื้น และเพิ่มอินทรียวัตถุลงในดินเพื่อช่วยให้รากชอนไชไปได้ไกล และทำให้ดินมีช่องว่างให้น้ำและอากาศไหลผ่าน พืชจะงอกงามเติบโต

ผัก แข็งแรง คนก็แข็งแรง: ต้นไม้เติบโตได้ต้องเกิดจากการดูแลรักษาที่ดี ไม่เพียงบำรุงดินด้วยอินทรียวัตถุ (ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก พืชสด ปุ๋ยชีวภาพ) และการปลูกพืชแบบคล้อยตามธรรมชาติ และป้องกันแมลงด้วยสารสกัดสมุนไพรเพื่อความสมดุลแห่งชีวิตกลับสู่สวนผักที่ เรารัก ปลูกต้นไม้ ได้ผลดีต้องสองมือเราดูแล ไม่ใช่ปล่อยให้เทวดาเลี้ยง...


By http://www.cmc.co.th/files/picture/activity/thumb/activity-thumb-1-1341473491.jpg

ตกแต่งห้องครัว เสริมพลังตามหลักฮวงจุ้ย

การ ตกแต่งห้องครัวให้สวยงามตามสไตล์ที่เราชื่นชอบนั้น หากจะให้ดียิ่งขึ้นควรพิจารณาเรื่องฮวงจุ้ยห้องครัวเพิ่มเติมด้วยค่ะ เพราะจะช่วยเสริมพลัง เสริมความเป็นมงคลกับผู้อยู่อาศัย

http://www.banidea.com/wp-content/uploads/2012/08/kitchen-design-Orange-1.jpg

มาดู 5 ข้อสำคัญสำหรับฮวงจุ้ยห้องครัวกันค่ะ

1. แสงธรรมชาติ – แสงไฟสำหรับฮวงจุ้ยห้องครัวที่ดีนั้นควรเป็นแสงไฟฟลูออเรสเซ้นต์หรือแสงจาก ธรรมชาติ หากจะเน้นความสว่างเป็นพิเศษให้เพิ่มแสงเป็นจุดๆไป

2. น้ำและไฟ – ฮวงจุ้ยห้องครัวที่ดีควรแยกอุปกรณ์เครื่องครัวที่เกี่ยวกับน้ำ เช่น อ่างล้างทำความสะอาด ซิ้งค์น้ำ เครื่องซักผ้า น้ำประปา ฯลฯ แยกออกจากอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับไฟ เช่น เตาอบ เตาแก๊ส พัดลมระบายอากาศ ฯลฯ ไม่ควรวางไว้ข้างกันเพราะธาตุน้ำกับธาตุไฟจะตัดพลังกันเอง ไม่สมดุล ควรวางไว้ตรงกันข้าม หรือวางไว้คนละมุมกัน

3.บรรยากาศ ที่เรียบง่าย – เนื่องจากการประกอบอาหารภายในห้องครัวทำให้เกิดพลังงานมาก ดังนั้น ผนังห้องครัวควรเป็นสีอ่อนๆ เช่น สีขาวจะดีกว่าสีอื่นๆ ช่วยให้ห้องครัวดูสะอาด สบายตา สำหรับสีน้ำตาลอ่อนหรือสีพาสเทลก็ดูดีเช่นกัน นอกจากนี้หากใครชอบสไตล์ครีเอทีฟสร้างสรรค์ก็ใช้เป็นโทนสีเอิร์ธ สีน้ำตาลสว่าง หรือสีเหลืองก็ได้ และควรมีหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสะดวกด้วย

4. ความสะอาด – ฮวงจุ้ยห้องครัวที่ดี ต้องมีความสะอาดสะอ้าน ไม่เป็นที่สะสมของเชื้่อโรคต่างๆ เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัย ไม่ควรวางของไว้เกะกะขวางทางเดิน เพื่อให้กระแสพลังงานไหลเวียนสะดวก แล้วช่วยเพิ่มความปลอดภัยอีกด้วย

5. ตำแหน่งการวาง – ไม่ควรจัดห้องครัวให้อยู่ใต้บันไดหรือมีบันไดพาดขวาง , ห้องครัวไม่ควรอยู่ติดกับห้องนอน, เตาไฟไม่ควรตั้งไว้หน้าห้องน้ำและประตูหน้า และไม่ควรตั้งไว้ตรงจุดศูนย์กลางบ้าน ควรตั้งไว้หลังบ้านมุมใดมุมหนึ่ง, หน้าเตาไฟหันไปทิศตะวันออกหรือทิศตะวันออกเฉียงใต้จะดี และไม่ควรที่ขื่อพาดผ่านห้องครัว


วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การป้องกันภัยจากการโจรกรรมในบ้านหรือคอนโด



วิถี ชีวิตของผู้คนในเมืองใหญ่ เรื่องของความปลอดภัยในเคหะสถานเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะภัยจากการโจรกรรมทรัพย์สินเป็นสิ่งที่สร้างความหวาดผวาให้กับผู้คน เป็นอย่างมาก ทั้งนี้เนื่องจากการใช้ชีวิตของคนเมืองจะมีรูปแบบในลักษณะต่างคนต่างอยู่ การหวังให้เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ กันช่วยเป็นหูเป็นตาแทนนั้นก็คงยาก

สำหรับวิธีที่นิยมให้กันมากที่สุดในบ้านพักอาศัยหรือคอนโดเห็น จะเป็นการติดเหล็กดัดตามประตูหรือหน้าต่าง ซึ่งมีความแข็งแรงและราคาไม่แพงส่วนผู้ไม่ชอบเหล็กดัด เพราะดูเป็นสิ่งเกะกะและไม่ทันสมัย แต่อยากให้บ้านปลอดภัยจากการบุกรุกนั้น ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เลือกใช้งานมากมายไม่ว่าจะเป็นมู่ลี่นิรภัยระบบอัตโนมัติ ให้ทำหน้าที่ทดแทนม่านปรับแสง ม่านบังตา ระบบสัญญาณกันขโมย รวมถึงโทรทัศน์วงจรปิด CCTV ซึ่งนำมาใช้ป้องกันการบุกรุกได้ สำหรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีข้อเด่นและข้อด้อยแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติราคา และวัตถุประสงค์ในการใช้งานโดยมีรายละเอียดต่อไปนี้

มู่ลี่นิรภัยระบบอัตโนมัติ
เป็นเครื่องมือปกป้องทรัพย์สินในบ้านหรือคอนโดอีก รูปแบบหนึ่ง ด้วยการนำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติแบบม้วนลักษณะคล้ายๆกับประตูเหล็กม้วนที่ ใช้กับอาคารพาณิชย์ทั่วไป มาผสานกับแนวคิดของมู่ลี่ปรับแสง ใช้ทำหน้าที่แทนเหล็กดัด ขณะเดียวกันก็สามารถปรับให้มีช่องสำหรับให้แสงลอดเข้ามาได้

วัสดุที่ ใช้ทำบานมู่ลี่เป็นอะลูมิเนียม มีน้ำหนักเบา แต่ก็มีความแข็งแรงทนทาน สามารถติดตั้งกับประตูหรือหน้าต่างทั้งบ้านที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและ บ้านที่ปลูกสร้างเสร็จแล้ว ระบบการเปิดปิดใช้งานง่าย เพียงกดสวิตช์อัตโนมัติก็จะทำงานอย่างที่ต้องการและถ้าต้องการความสะดวกยิ่ง ขึ้น ก็ติดตั้งชุดรีโมทคอนโทรลเพิ่มได้ มีความปลอดภัยสูง กรณีฉุกเฉินหรือไฟฟ้าดับสามารถใช้มือหมุนเพื่อเปิดออกได้ทันที

ระบบเตือนภัยจากการโจรกรรมหรือสัญญาณกันขโมย
ระบบการเตือนภัยเพื่อป้องกันการบุกรุกในบ้านคอนโดนั้นปัจจุบันมีให้เลือกใช้ทั้งเทคโนโลยีที่ผลิตได้ในบ้านเราหรือคอนโดและ นำเข้าจากต่างประเทศแต่ก็ยังไม่แพร่หลายเหมือนกับเหล็กดัด ที่เราคุ้นเคยกัน ทั้งที่เมื่อพิจารณาดีๆ แล้ว ราคาติดตั้งก็ไม่แตกต่างกันมากมายนัก

ระบบสัญญาณกันขโมยโดยทั่วไปจะประกอบด้วยอุปกรณ์พื้นฐานคล้ายๆ กันคือ
อุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณ (sensor)
ทำหน้าที่ตรวจจับสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในรูปแบบต่างๆ และส่งสัญญาณไปยังเครื่องรับหรือชุดควบคุมเพื่อทำการเตือนภัย

เครื่องรับสัญญาณหรือชุดควบคุม(receiver or control unit)
เป็นหัวใจของการทำงานของระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านหรือคอนโดการ เปิดปิดเครื่องตลอดจนการเลือกรูปแบบการทำงานต่างๆ จะต้องทำในส่วนนี้เพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่างๆให้สัมพันธ์กัน โดยจะทำหน้าที่รับสัญญาณจากอุปกรณ์ตรวจจับทุกจุดในบ้าน อาทิ ห้องนอน ตู้เชพ และส่งสัญญาณเตือนภัยให้เจ้าของบ้านรับรู้เมือมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

ส่วนแจ้งเตือนภัย (alarm section)
ส่วน นี้ก็คืออุปกรณ์ส่งสัญญาณเสียง ( siren) หรือพวกสัญญาณไฟต่าง ๆ นั่นเอง และยังรวมถึงระบบโทรศัพท์ที่สามารถแจ้งเหตุไปยังสถานที่ที่เราต้องการได้ เช่น ป้อมยามหน้าหมู่บ้าน ศูนย์รับแจ้งเหตุ หรือสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดได้ด้วย

โทรทัศน์วงจรปิด (cctv)
เป็น เครื่องมืออีกรูปแบบหนึ่งที่เข้ามาช่วยเสริมระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านหรือ ร้านค้าซึ่งเจ้าของไม่สามารถดูแลได้ตลอดเวลาระบบ CCTV มีอุปกรณ์หลักเป็นกล้องโทรทัศน์ซึ่งติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะจุดที่เสี่ยงต่อการบุกรุก เช่นประตูทางเข้าออก ห้องเก็บของมีค่า ฯลฯ เพื่อตรวจจับความเคลื่อนไหวและบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และยังใช้เป็นหลักฐานในการจับกุมหรือหาตัวคนร้ายได้นำภายหลังนอกจากนี้ สามารถต่อเชื่อมเข้ากับระบบเตือนการบุกรุกหรืออุปกรณ์เปิดปิดประตูอัตโนมัติ ได้ 

ในความเป็นจริงแล้ว การป้องกันและเตือนภัยจาการบุกรุกนั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องใช้อุปกรณ์ เตือนภัยดังกล่าวทั้งหมดแต่ขึ้นอยู่กับหลักการป้องกัน  ความจำเป็น และรูปลักษณ์ของอาคารที่แตกต่างกัน ซึ่งภัยจากการบุกรุกเป็นภัยหนึ่งที่มีตัวอย่างให้เห็นบ่อยๆ และมีการพัฒนารูปแบบอยู่ตลอดเวลา ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นการกระตุ้นเตือนให้เจ้าของบ้านเกิดความระมัดระวัง และแม้ว่าจะมีการป้องกันที่ดีแล้ว พึงระลึกเสมอว่า การตั้งอยู่ในความไม่ประมาทเป็นการดีที่สุด



By http://www.cmc.co.th/files/picture/activity/thumb/activity-thumb-1-1341473491.jpg

เทคนิคแก้ไขแดดส่องจนบ้านร้อน

หากบ้านของคุณออกแบบหรือเลือกทิศทางผิด  จนทำให้ต้องเผชิญกับแดดร้อนแรงตลอดทุกฤดูในประเทศไทย  จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร 

วิธีแก้ไขปัญหา ถ้าบ้านเราสู้แดด-หลบลม  อาจเกิดจากเจ้าของบ้านบังคับทิศทางเองไม่ได้ ดังนั้น การทำให้บ้านอยู่สบายในเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปตามทิศทางของที่ตั้งบ้าน อาจใช้วิธีดังนี้

ถ้าบ้านหันด้านยาวไปทางทิศตะวันตก  
การทำ ช่องหน้าต่างด้านนี้ ก็จำเป็นเพื่อการระบายความร้อนอบอ้าวออกจากบ้านด้วยวิธีธรรมชาติ แต่ควรมีชายคาคลุมผนังและช่องหน้าต่างด้านนี้ให้ยื่นยาว ระเบียงตามแนวตัวบ้านทิศตะวันตกพร้อมชายคาคลุมที่ฝรั่งเรียกว่า วารันด้า (veranda) และการทำมุขยื่นตรงประตูทางเข้าบ้านพร้อมหลังคาคลุม (porch) ก็จะช่วยให้ทางเข้าดูร่มรื่น-หลบแดด เป็นการต้อนรับเข้าสู่บ้านสำหรับบ้านที่หันทิศทางสู้แสงแดดแรงกล้าได้อย่าง ไม่เคอะเขิน เทอเรซ (terrace) ลานเปิดโล่งพร้อมพื้นผิวดูดความร้อนได้ดี เช่น หินแกรนิต จะทำให้ความร้อนสะท้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ควรให้มีหลังคา-ชายคาคลุมลานทิศนี้ไว้ดีที่สุด กระเบื้องดินเผาจะช่วยลดการสะท้อนของความร้อนได้บ้าง 

ทิศใต้ตรงกับหน้าบ้าน  
ในฤดู หนาวแสงแดดจะย้อนเข้ามาทางหน้าต่างหากชายคาสั้น และถ้ามีระเบียง พื้นระเบียงจะสะสมความร้อนไว้ทำให้ยามบ่ายภายในห้องทิศนี้ร้อนอบอ้าว การแก้ปัญหาก็เช่นเดียวกัน คือ ทำชายคาให้ยื่นยาว หรือใช้อุปกรณ์บังแดดในลักษณะต่างๆ ติดที่หน้าต่างหรือชายคา

ทิศตะวันออกตรงกับทางเข้าบ้าน  
แม้อยากจะได้แสงแดดตอนเช้า แต่พอบ่ายก็รู้สึกร้อนอ้าว เพราะความร้อนสะสมในช่วงเช้า การใช้ชายคาคลุมจะได้ผลดีที่สุด

นอกจาก นี้  การใช้มู่ลี่ ผ้าม่านบังแดดภายใน การใช้สีสว่างทาบ้าน และการติดตั้งฉนวนกันความร้อนสำหรับผนังทิศตะวันออกและตะวันตก ก็จะช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้านได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในการจัดวางแปลนห้องและงบประมาณในการปรับปรุงบ้าน ให้เย็นสบายของแต่ละบ้าน


วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สิ่งที่ต้องตรวจสอบ คอนโด ก่อนรับโอนห้องชุด




กฎเหล็กสำคัญที่เจ้าของห้องชุดทุกคนควรจดจำ ก่อนตัดสินใจจรดปากกาเซ็นชื่อลงในใบรับห้องชุด ก็คือ ถ้าห้องชุดยังไม่พร้อมห้ามลงชื่อรับเด็ดขาด

วิญญู วานิชศิริโรจน์ เจ้าของหนังสือ ตรวจสุขภาพคอนโดก่อน รับโอน กล่าวว่า “อำนาจของผู้ซื้อจะหมดไปทันทีที่มีการเซ็นเอกสาร ดังนั้นจะต้องตรวจสอบให้ละเอียดก่อนที่จะลงชื่อรับห้องชุด ถ้าลงชื่อรับห้องชุดไปแล้วอำนาจการสั่งแก้ไขต่าง ๆ ของผู้ซื้อก็จะหมดไปโดยสิ้นเชิง คำพูดของเจ้าหน้าที่ขาย หรือโฟร์แมนห้องชุดก็จะเป็นเพียงแค่ลมปากเท่านั้น คือผ่านมาแล้วก็จะผ่านไป อย่าไปหวังให้มีการมาแก้ไขข้อผิดพลาดใด ๆ หลังเซ็นเอกสารไปแล้ว”

สิ่งที่ผู้ซื้อจำเป็นจะต้องตรวจสอบก่อนลงนามรับห้องชุด แบ่งออกเป็น 9 ส่วนดังต่อไปนี้

1. พื้นที่ ส่วนกลางหรือทรัพย์ส่วนกลาง คือ พื้นที่ที่อยู่นอกเหนือจากพื้นที่ที่ได้จดเป็นพื้นที่อาคารชุด ได้แก่ ที่ดินของโครงการ รั้วรอบโครงการ ที่จอดรถยนต์ โถงทางเดิน ทางเดิน ลิฟต์ บันไดหลัก บันไดหนีไฟ ระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน ระบบป้องกันเพลิงไหม้ และพื้นที่อำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย สวนส่วนกลาง เป็นต้น

พระราชบัญญัติอาคารชุด ระบุไว้ว่า “คำสัญญาต่างๆ ที่ผู้ประกอบการใช้โฆษณาขายอาคารชุด ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาซื้อขาย ดังนั้นผู้ซื้อมีสิทธิไม่รับห้องชุดถ้าพื้นที่ส่วนกลางหรือทรัพย์ส่วนกลาง ไม่เรียบร้อย และมีไม่ครบตามที่ได้โฆษณาไว้”

ทั้งนี้ สำหรับผู้ซื้อทั่วไป การที่จะตรวจสอบเรื่องดังกล่าว อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะพื้นที่ส่วนกลางนั้น มันมีหลายส่วน บางที่การก่อสร้างก็ไม่ตรงแบบ (โดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ บางทีก็มีการปกปิด หรืออื่นๆ....) ผู้ซื้อก็ไม่ได้รู้เรื่องแบบ หรือไม่มีแบบให้ดู (ถึงแม้จะดูเป็น) แต่อย่างน้อย ก็ควรตรวจดูพื้นที่บริการส่วนกลาง ที่เราจะต้องใช้ เช่น ที่จอดรถยนต์ สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย สวน เป็นต้น

2. โครงสร้าง อาคาร ผู้ซื้ออาจตรวจสอบได้เฉพาะสิ่งที่มองเห็นจากภายนอก ซึ่งส่วนใหญ่อาคารชุดมักเป็นโครงการอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งมีกฎหมายควบคุมอาคารที่มีข้อกำหนดเข้มข้นกว่าอาคารขนาดเล็ก ตัวอาคารจึงมักมีปัญหาโครงสร้างน้อยกว่าอาคารขนาดเล็ก ข้อนี้ สำหรับคนทั่วไป ยิ่งไม่สามารถตรวจสอบความผิดปกติได้เลย ผมขอแนะนำให้ผู้ซื้อ ตรวจสอบ เฉพาะห้องที่เราซื้อ เช่นตำแหน่งเสา ที่ระบุในแปลน บางทีเขาก็คิดพื้นที่รวมเสาเข้าไปด้วย (ซึ่งที่จริง ไม่ควรคิด) บางครั้งพื้นที่ก็ไม่ครบ เช่นแคบไป สั้นไป เวลาออกโฉนดอาคารชุด ควรได้พื้นที่ตามจริง เพราะอาจมีผลกับราคาที่ซื้อขาย

3. พื้นที่ต่อ เนื่องกับส่วนอื่น ถ้าห้องของเราอยู่ชั้นบนสุด ควรตรวจสอบหลังคาของอาคารด้วยว่ามีการรั่วซึมหรือไม่ ถ้าห้องอยู่ชั้นล่างสุด ควรตรวจสอบเรื่องการป้องกันความชื้นจากพื้นดิน ส่วนห้องที่อยู่ระหว่างชั้น ควรตรวจสอบห้องน้ำ ซึ่งมักอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกัน ถ้าสามารถเข้าไปตรวจสอบห้องน้ำที่อยู่เหนือห้องของเราได้ก็จะดีมาก เพราะเราจะได้พบปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ หรือดูระบบท่อของห้องน้ำห้องข้างบน เพราะถ้าท่อตัน เราจะเป็นคนเดือดร้อน

4. พื้น มักพบปัญหาพื้นไม่เรียบ ไม่ได้ระดับ ควรตรวจดูให้ละเอียดทั่วห้อง เพราะพื้นเป็นส่วนที่เราต้องสัมผัสมากที่สุดเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ ของห้องชุด โดยเฉพาะพื้นห้องน้ำ ที่ปูกระเบื้อง

5. ผนัง เป็นส่วนที่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบมากที่สุด เพราะมีพื้นที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ ต้องตรวจสอบดูว่าได้ดิ่ง ได้ฉากหรือไม่ ผิวปูนฉาบเรียบสม่ำเสมอ มีรอยแตกร้าว หรือไม่

6. ฝ้า เพดาน เป็นส่วนที่เจ้าของห้องมักละเลยที่จะตรวจสอบ เนื่องจากพื้นที่ส่วนนี้อยู่พ้นระยะสายตา เจ้าของห้องจำเป็นต้องตรวจ สอบทั้งฝ้าเพดานที่อยู่ภายในและฝ้าเพดานที่อยู่ภายนอก

7. ช่องเปิด ไม่ว่าจะเป็นประตู หน้าต่าง ช่องแสง รวมถึงช่องเปิดอื่นๆ เช่น เกล็ดระบายอากาศ และอิฐแก้ว เป็นต้น ปัญหาที่มักพบคือ ลูกบิด กลอน มักติดตั้งไม่เรียบร้อย ปิด-เปิดไม่ได้ หรือเปิดปิด ไม่สะดวก

8. ระบบไฟฟ้า ต้องตรวจสอบตั้งแต่มิเตอร์ไฟฟ้านอกห้องชุด สายไฟฟ้าหลักที่เชื่อมต่อเข้าห้องชุด รวมไปถึงแผงไฟฟ้าหลัก ปลั๊กไฟฟ้า สวิตช์ไฟฟ้า ดวงโคม สายโทรศัพท์ และสายสัญญาณโทรทัศน์

9. ระบบสุขาภิบาล ประกอบด้วยท่อน้ำต่างๆ ทั้งน้ำดีและน้ำเสีย ได้แก่ ระบบท่อน้ำประปา ท่อน้ำทิ้ง ท่อส้วม ท่อน้ำฝน บ่อพัก บ่อบำบัด เป็นต้น ปัญหาที่พบมากคือ อ่างล้างหน้ามักมีรอยรั่ว วิธีการตรวจสอบ ให้เปิดก๊อกน้ำให้หมด แล้วขังน้ำไว้สักพักก่อนปล่อยน้ำออก เพื่อตรวจดูว่าน้ำไหลดีหรือไม่ ตรวจดูท่อน้ำว่ามีน้ำหยดหรือไม่ ส้วมเป็นอีกจุดที่มักพบปัญหา ให้ตรวจสอบด้วยการลองกดน้ำ 2-3 ครั้ง เพื่อดูว่าน้ำไหลดีหรือไม่

หากพบว่าห้องชุดมีปัญหาให้รีบแจ้ง ซ่อมให้เสร็จเรียบร้อยก่อนลงนามรับห้องชุด ไม่ควรใช้การพูดด้วยวาจา ควรจดบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรว่ามีการแจ้งซ่อมอะไรบ้าง แล้วทำสำเนาให้ช่างไปหนึ่งชุด เพื่อที่ซ่อมเสร็จแล้วจะได้ตรวจสอบได้ถูกต้องว่าได้สั่งซ่อมอะไรไปบ้าง แล้วจึงตรวจรับเป็นครั้งสุดท้าย

“ห้องชุดจะพบปัญหาน้อยกว่าบ้าน ปัญหาที่พบส่วนใหญ่จะเป็นงานตกแต่ง โดยเฉพาะพื้นที่ปรับระดับไม่เรียบร้อยก่อนนำไม้เทียมมาปูทับ ส่วนงานระบบพบมีปัญหาไม่มากนัก แต่อย่างไรก็ตามผู้ซื้อก็ควรตรวจสอบความเรียบร้อยของห้องชุดให้ละเอียด รอบคอบ ก่อนจะทำการลงนามรับห้องชุด นอกจากนี้ควรขอใบรับประกันของแถมที่ทางโครงการมอบให้กับลูกค้า อาทิ แอร์ ชุดเครื่องครัว ตู้เย็น ฯลฯ มาเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วย” วิญญู วานิชศิริโรจน์ กล่าวสรุป.


By http://www.cmc.co.th/files/picture/activity/thumb/activity-thumb-1-1341473491.jpg

จัดห้องนอนเสริมชีวิตรัก

มาจัดห้องนอน เสริมความรัก และชีวิตคู่เพื่อให้รักแนบแน่น ชีวิตคู่ยืนนาน จัดฮวงจุ้ยห้องนอนให้ส่งเสริมกันดีกว่า



1. เตียงนอน ควรใช้เตียงที่ทำจากไม้ เพราะ เตียง นอนที่ทำจากโลหะนั้น เป็นสื่อนำไฟฟ้า ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของคุณ และพยายามนำเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรศัพท์มือถือ ออกห่างจากเตียงของคุณ
2. แสงภายในห้อง ไม่ควรจะสว่างจ้าเกินไป (หยาง) หรือสลัวทึมเกินไป (หยิน) และอย่าลืมเรื่องเสียงรบกวนด้วย เพราะจะทำให้คุณและคู่รักหงุดหงิดได้
3. ถ้าห้องนอนของมีหน้าต่างกระจกใส ที่ สามารถ ชมวิวสวยๆ นอกบ้านได้ ไม่ควรวางเตียงติดหรือใกล้กระจกมากเกินไป แม้ว่าคุณอยากจะนอนชมวิวภายนอกใจจะขาด เพราะพลังที่ผ่านเข้ามาจากภายนอก แม้จะไม่ทำให้คุณกับเขามีเรื่องมีราวถึงกับต้องเลิกรากัน แต่ก็จะส่งผลให้นอนไม่หลับหรือฝันร้ายอยู่เรื่อยๆ
4. ใต้เตียงนอน ไม่ ควรเอาของที่ไม่ใช้แล้วไป เก็บไว้ โดยเฉพาะของที่แตกหักยับเยินห้ามเด็ดขาด! แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ไม่มีที่จะไว้ของแล้ว ก็ให้เลือกเก็บแต่ของใหม่ๆ ที่สำคัญต้องจัดให้เป็นระเบียบ ถ้าใต้เตียงรกมากๆ หรือเก็บของหักๆไว้ จะทำให้คุณหรือหวานใจมีสุขภาพไม่แข็งแรง แถมยังมีปากเสียงกันได้บ่อยๆ ด้วย
5. หน้าต่างห้องนอน ควร ใช้ม่านบังตามากกว่า มู่ลี่กันแดดที่ดูแข็ง ไม่มีความพลิ้วไหวเหมือนกับผ้า เพราะห้องนี้ต้องการบรรยากาศที่นุ่มนวล ไม่ใช่ความเป็นงานเป็นการมากนัก เชื่อกันว่าถ้าใช้ม่านบังตาติด จะช่วยเสริมโชคเรื่องความรัก
6. หาแจกันดอกไม้ มาวางไว้ในห้องนอนสักหนึ่งอัน หรือ จะเป็นกระถางต้นไม้ก็ได้ กระถางควรเป็นสีขาว ส่วนต้นไม้ให้เป็นสีแดงหรือสีชมพู จะช่วยเพิ่มพลังรักให้แข็งแรงมากขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการนำต้นไม้ใหญ่ไว้ในห้องนอน
7. หัวเตียงและผนังด้านหัวเตียง สามารถออกแบบให้สวยงามได้ ถ้าเตียงตั้งตรงกับประตูทางเข้าห้องนอน ให้แขวนคริสตัลไว้ระหว่างเตียงและพื้นที่ส่วนนั้น
8. อย่าหันหัวเตียงไปทางห้องน้ำเป็นอันขาด ดวงความรักที่กำลังรุ่งโรจน์อาจจะจะพุ่งลงเหวได้ง่าย เพราะจะต้องมีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันไม่หยุดหย่อน
9. ไม่ควรหันปลายเท้าให้กับประตูห้องนอน เพราะ เป็นสัญลักษณ์การนอนของคนตาย ไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง หากปลายเตียงหันไปทางประตูห้องนอนพอดี จะมีเรื่องเดือดร้อนใจในครอบครัว สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง อาจมีคนเจ็บป่วยอยู่เรื่อยๆ ความอบอุ่นในบ้านจะลดน้อยลง ถ้าสุดจะเลี่ยง ก็ให้แก้ไขง่ายๆ ด้วยการติดกระจกบานเล็กๆไว้ที่ปลายเตียง เพื่อสะท้อนพลังอันเลวร้ายออกไป
10. พื้นห้องนอนควรเป็นสีพื้นเรียบๆ อาจ มีลวดลาย สบายตาได้บ้าง แต่สีพื้นสีเดียวไปเลยจะดีที่สุด หากปูพรม อย่าเลือกพรมที่มีลวดลายฉวัดเฉวียนน่าเวียนหัว เพราะจะส่งผลให้ความรักของคุณวุ่นวาย



11. อย่าใช้ผ้าห่มสีขาว เพราะ หากนำมาคลุมร่าง จะเหมือนกับสัญลักษณ์ของคนตาย ผ้าปูที่นอนสีขาวแม้จะดูสะอาดสะอ้าน แต่ก็ไม่เหมาะกับห้องนอนนัก สีขาวโพลนจะส่งผลให้พลังความรักกระจัดกระจาย เลือกผ้าปูที่นอนที่มีสีจะดีกว่า
12. หาผ้าที่ทอด้วยด้ายสีทองหรือผ้าที่เป็นสีทองวางไว้บนเตียง เนื้อผ้าที่ส่องประกายแวววาว จะช่วยให้คุณสร้างบทรักบนเตียงได้ละเมียดละไมหวิวไหวยิ่งขึ้น
13. ถ้าช่วงไหนอารมณ์ร้อน อาจจะจากเรื่องงาน เรื่องเพื่อน จนพานโมโหคนรักบ่อยๆ ให้หาชามสวยๆ ใส่ก้อนหินหรือคริสตัลวางไว้ใต้เตียงนอน จะช่วยทำให้อารมณ์เย็นลง
14. อยากให้ความรักของคุณมั่นคง ให้หาหินควอตซ์ สีขาวใส ก้อนใหญ่พอประมาณ มาวางไว้ใต้เตียง
15. อย่าติดหลอดไฟที่ให้แสงส่องเป็นลำลงมาที่เตียงเป็นอันขาด เพราะ ความรักของคุณจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งเหยิง น่าปวดหัว ถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้แขวนสร้อยลูกปัดที่ปลายเตียง เพื่อซึมซับพลังงานที่ขัดแย้ง
16. หากคุณกำลังกังวลว่าเขากำลังจะมีกิ๊กหน้าใส ให้ เปลี่ยนม่านหน้าประตูห้องนอน เป็นม่านที่ร้อยด้วยลูกปัด เชื่อกันว่าลูกปัดจะช่วยเก็บพลังงานรักให้อยู่เป็นที่เป็นทางไม่วอกแวกไปที่ อื่น
17. หากเตียงนอนอยู่กึ่งกลางระหว่างประตูสองด้าน เช่น ประตูเข้าห้องและประตูห้องน้ำ ให้ย้ายตำแหน่งของเตียง หรือไม่ก็หาฉากสวยๆ มากั้น เพื่อให้พลังงานความรักนั้นรวมกันเป็นหนึ่ง


วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

วิธีการซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทย



เนื่อง จากมีลักษณะต้องห้ามสำหรับชาวต่าง ชาติกับที่ดินของตัวเอง, ซื้อห้องชุดได้กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจจะได้มาซึ่งความเป็นเจ้า ของอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย จะได้รับมากยิ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากกฎหมายคนเข้าเมืองได้รับการ แก้ไขเพิ่มเติมเมื่อเร็ว ๆ นี้จะนำเสนอความเป็นไปได้สำหรับชาวต่างชาติที่ซื้อห้องชุดมูลค่าขั้นต่ำของ 10 ล้านบาทในการขอวีซ่าการลงทุน.

กฎระเบียบในการซื้อห้องชุดโดยชาวต่างชาติเป็น constraining แน่นอนน้อยให้พวกเขาตกอยู่ในหนึ่งในสามประเภทดังต่อไปนี้:
 (1) คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ถาวรในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยการตรวจคนเข้าเมือง;
 (2) คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน (คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน);
 (3) คนต่างด้าวที่นำเงินตราต่างประเทศมาในราชอาณาจักรหรือถอนเงินจากบัญชีเงิน บาทของถิ่นที่อยู่นอกหรือจากบัญชีสกุลเงินต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ ของการซื้อห้องชุดใด.

ประเภทที่สามเป็นจริงแก้ปัญหาที่พบบ่อยที่สุด ตามด้วยชาวต่างชาติที่จะได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในห้องชุดในประเทศไทย. ในการนี้, การโอนเงินจะต้องทำเฉพาะในสกุลเงินต่างประเทศจากหรือไปยังบัญชีธนาคารส่วน บุคคลของผู้ซื้อ. นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องใช้เพื่อแจ้งไปยังธนาคารที่วัตถุประสงค์ในการโอนดัง กล่าวเป็นไปได้ในการซื้อห้องชุด Buying a condominium unit has become an attractive alternative to acquire real estate ownership in Thailand

ซื้อห้องชุดได้กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจจะได้มาซึ่งความเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย

ใน ทางปฏิบัติ, แบบฟอร์มการโอนเฉพาะ, จึงเรียกว่า “แบบฟอร์มการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ”, จะต้องได้รับจากธนาคารในประเทศของผู้รับ (I. ผู้ซื้อหรือผู้ขาย) เพื่อพิสูจน์การโอนเงินตราต่างประเทศสำหรับมูลค่าเทียบเท่าในห้องชุดให้กรม ที่ดิน.

ตามพระราชบัญญัติอาคารชุด, แต่ชาวต่างชาติที่จะได้รับสิทธิในการเป็นเจ้าของอาคารคอนโดมิเนียมในสัดส่วน สูงสุดของ 49 % ของพื้นที่ทั้งหมดของทุกหน่วยในอาคารชุดดังกล่าวในเวลาการขอจดทะเบียนอาคาร ชุดจะถูกยื่น.

จะทราบอย่างชัดเจนที่จะใช้มาตรการระมัดระวังก่อนการ ซื้อห้องชุดใด ๆ ในประเทศไทย, เช่นการแสดงความขยันเนื่องจากการตรวจสอบโฉนดที่ดินตรวจสอบความถูกต้องและไม่ ว่าทรัพย์สินจะอยู่ภายใต้ภาระผูกพันใด ๆ. มันจะคุ้มค่านอกจากนี้ยังตรวจทานบทบัญญัติของสัญญาการขายในมุมมองของความ เข้าใจซึ่งกันและกันของบุคคล.

ในที่สุด, ผลภาษีเป็นปัจจัยที่จะพิจารณาต่อไปในประเภทของรายการนี้. การจัดซื้ออาคารชุดพักอาศัยในประเทศไทยสามารถจะทำให้การลงทุนที่น่าสนใจ, ที่ให้คำปรึกษาก่อนที่ของที่ปรึกษากฎหมายสามารถป้องกันไว้ก่อนที่มีค่า

By http://www.cmc.co.th/files/picture/activity/thumb/activity-thumb-1-1341473491.jpg


เริ่ด ตกแต่งคอนโดเช่า แบบไม่ต้องต่อเติม


          ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องเช่าคอนโด หรืออพาร์ทเม้นท์ คงต้องเจอกับข้อจำกัดมากมายของการตกแต่งห้อง โดยเฉพาะกฎข้อสำคัญที่ห้ามต่อเติมหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในห้อง ซึ่งทำให้การตกแต่งคอนโดหรืออพาร์ทเม้นท์ของคุณเป็นเรื่องน่าปวดหัวสุด ๆ วันนี้มีตัวอย่างคอนโดเก๋ ๆ บนตึกสูงในเมืองชูอาน เล แปงส์ ของประเทศฝรั่งเศส ที่ออกแบบโดย UdA Architetti ซึ่งเปลี่ยนห้องคอนโดโล่ง ๆ ให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นด้วยพาทิชั่นเริ่ด ๆ แบบไม่ต้องดัดแปลงโครงสร้างอะไรเลย มาฝากกัน

           คอนโดห้อง นี้เป็นห้องขนาด 40 ตารางเมตร และมีจุดเด่นตรงที่อยู่ติดทะเล ดังนั้นเมื่อมีอากาศดี ๆ ให้สูดเต็มปอดแบบนี้ จะปิดห้องหรือใช้วัสดุทึบแสงคงไม่เหมาะสักเท่าไหร่ บริเวณระเบียงห้องจึงนำแผ่นกระจกใสมาตกแต่ง และคั่นด้วยวงกบสีขาว ซึ่งหากมองออกไปด้านนอกจะเป็นเหมือนกรอบรูปขนาดใหญ่ที่มีภาพทะเลติดอยู่ วางเก้าอี้สีเข้มเอาไว้สำหรับนั่งชื่นชมกับบรรยากาศภายนอกได้ทุกเวลา

           และเนื่องจากพื้นที่ห้องค่อนข้างจำกัด อีกทั้งยังไม่สามารถต่อเติมหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างได้ นักออกแบบจึงได้เสนอแนวความคิดใหม่ ด้วยการสร้างห้องเล็ก ๆ จากพาทิชั่นขึ้นมาอีกหนึ่งชั้น แทนการแบ่งกั้นด้วยการก่อผนังตามหลักการสร้างบ้านทั่ว ๆ ไป ภายในประกอบไปด้วยห้องนอนขนาดกะทัดรัด พร้อมเตียงสองชั้น ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว และมุมนั่งเล่น เป็นต้น เรียกว่าเป็นการเนรมิตคอนโดโล่ง ๆ ให้กลายเป็นบ้านหลังเล็กได้แบบสบาย ๆ โดยไม่ต้องต่อเติมเลยสักนิด

          ในแต่ละส่วนมีการหยิบยกสีสันของท้องทะเลมาเป็นหลัก โดยใช้สีฟ้า และสีเบจ สำหรับตกแต่งเฟอร์นิเจอร์กับบานเลื่อนของห้องนอนกับห้องครัว ขณะที่พื้นและของตกแต่งก็นำเอาโทนสีเทาเข้ามาเสริม เพื่อไม่ให้ห้องขาวโล่งจนเกินไป พร้อมกับสร้างจุดเด่นความน่าสนใจด้วยโต๊ะสีแดงเข้มบริเวณพื้นที่นั่งเล่น ทำให้ห้องมีสีสันมากขึ้น โดยหากถึงวันที่ต้องย้ายออกก็เพียงแค่ถอดพาทิชั่นทั้งหมดออกเท่านั้น คอนโดที่เช่าอยู่ก็สามารถกลับมาเป็นห้องโล่งเหมือนปกติแล้วล่ะ เริ่ดเนอะ!



วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

10 ข้อแนะนำ ก่อนซื้อบ้าน - คอนโดหลังแรก



ข้อมูล บางส่วนของไมเคิล ไอเซนเบิร์ก ผู้เชี่ยวชาญการเงินส่วนบุคคล จากเวบไซต์ฟิเดลิตี้ กองทุนใหญ่อันดับหนึ่งของสหรัฐ ในหัวเรื่อง "10 เคล็ดลับแนะนำผู้บริโภคซื้อบ้านหลังแรก" เพื่อช่วยคนไทยที่อยากซื้ออสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดมิ เนียมหลังแรกไว้เป็นของตัวเอง โดยฉบับนี้ไอเซนเบิร์กยังมีคำแนะนำอีกส่วนหนึ่งที่เหลือ มาฝากคนไทยทั้งในและต่างประเทศได้นำข้อมูลของเขา ไว้ไปประยุกต์ใช้ เพื่อตั้งข้อสังเกตให้ฉุกคิด แบบผู้ที่เริ่มต้นจากพื้นฐานไม่มีความแน่ใจหรือไม่รู้อะไรเลย และต้องใคร่ครวญให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน

@ "ต้องมีเงินออมเผื่อฉุกเฉิน" เป็นอีกไอเดียเตือนใจก่อนให้ความเห็นในแง่บวกของไอเซนเบิร์กที่ว่า หากคุณมีเงินสดอยู่ในมือเพียงพอ ที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตนาน 3-6 เดือน นั่นหมายถึงการก้าวเข้าใปใกล้สถานะเตรียมตัวเป็นเจ้าของบ้านหรือคอนโดได้แล้ว

แต่ ไอเซนเบิร์กขอให้ผู้บริโภคคนไทย นึกถึงเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่ดี ที่จะทำให้รายได้ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องเกิดสะดุด เช่น กรณีเจ็บป่วยรุนแรง การปลดพนักงาน หรือแม้แต่หายนภัย ซึ่งเป็นเหตุไม่คาดฝัน ทำให้คุณไม่สามารถทำงานหารายได้ตามปกติ คุณต้องแน่ใจก่อนว่ายังมีเงินรองรัง ช่วยให้การชำระหนี้เพื่อที่อยู่อาศัยไม่สะดุด และสามารถผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากไปได้

@ "สามารถคุมหนี้ไม่ให้บานปลายได้" บรรดาสถาบันการเงินต่างๆ ที่เป็นเจ้าหนี้ปล่อยกู้ทุกวันนี้ มีระบบที่สร้างความมั่นใจได้ว่า ลูกหนี้หรือผู้ซื้อบ้านต้องการเงินกู้ มีเงินเพียงพอแต่ละเดือนเพื่อชำระหนี้ ดังนั้น ก่อนที่บรรดาธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นเป็นเจ้าหนี้อนุมัติสินเชื่อให้ ลูกหนี้ จะพิจารณาสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ของผู้กู้เสียก่อน

แต่ โดยทั่ว ไปแล้ว ไอเซนเบิร์กต้องการให้ลูกหนี้ประเมินตัวเองเสียก่อน ให้แน่ใจได้ว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเฉพาะบ้าน ซึ่งรวมถึงเงินโอน ดอกเบี้ยกับภาษีและเงินประกันภัย หากรวมแล้วต้องไม่มากเกิน 33% ของรายได้รวมในแต่ละเดือน

ขณะ ที่ภาระหนี้ต้องผ่อนในแต่ละเดือน ซึ่งหนี้เหล่านี้รวมถึงหนี้ต้องผ่อนบ้าน หนี้บัตรเครดิต หนี้เพื่อการศึกษา และหนี้ต้องผ่อนชำระค่ารถยนต์ ต้องต่ำกว่า 38% ของค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ดังนั้นเป็นไอเดียที่ดีกว่า หากผู้คิดจะซื้อบ้าน ซึ่งเดิมมีหนี้ก้อนใหญ่จะพยายามลดมูลหนี้ให้น้อยลง ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อเพื่ออสังหาริมทรัพย์ และต้องมั่นใจก่อนว่าตัวเองมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะขอเงินกู้ได้มากตามความ จำเป็น

@ "แน่ใจหรือยังประวัติเครดิตขอสินเชื่อไม่มีปัญหา" ในต่างประเทศตอนนี้ ผู้ขอกู้ซื้อที่อยู่อาศัย ไม่จำเป็นต้องมีประวัติการขอสินเชื่อดี 100% เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับอนุมัติเงินกู้ซื้อบ้าน แต่ประวัติการเงินพอใช้หรือผ่านได้ก็สามารถช่วยให้ผู้ขอกู้ ได้ดอกเบี้ยที่ต้องผ่อนชำระลดลง และจำนวนเงินที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือนผ่อนได้น้อยลงด้วย

ใน สหรัฐคนไทย ที่พำนักอยู่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ให้ตรวจสอบประวัติการเงินของตัวเองได้ทุกปีจากเวบไซต์ www.annualcreditreport.com โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ โดยข้อมูลที่เข้าไปตรวจสอบเป็นข้อมูลได้จากเครดิตบูโรสำคัญ 3 แห่ง

ดัง นั้น ผู้บริโภคที่อยากขอกู้เงินซื้อที่อยู่อาศัย สามารถเข้าไปดูข้อมูลซึ่งบรรดาสถาบันการเงินก็ใช้เป็นข้อมูลตรวจสอบเช่นกัน ก่อนตัดสินใจให้เงินกู้ คำแนะนำในข้อนี้ช่วยให้ผู้ขอกู้ เพิ่มความระมัดระวังประวัติการเงินการขอสินเชื่อของตัวเอง ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ให้กู้ได้

@ "ซื้อที่อยู่อาศัยควรถือครองสิทธิไว้ให้นานที่สุด" ข้อนี้เป็นการเตือนใจให้ผู้คิดจะซื้อบ้านหรือคอนโดว่า พร้อมหรือทำใจหรือยังว่าการมีบ้านหรือคอนโดเป็น ของตัวเอง ควรอยู่ให้นานอย่างน้อย 3-5 ปีได้หรือไม่ ต้องคำนึงถึงระยะเวลาด้วยว่า จะทำที่พักอาศัยให้เรียบร้อยลงตัว ก่อนที่คิดจะทำธุรกรรมขายต่อได้หรือไม่

เพราะ ถ้าขายก่อนเวลาอันควร ผู้ซื้ออาจขาดทุนจากธุรกรรม ในต่างประเทศอย่างสหรัฐ หากผู้ซื้อคิดทำกำไรกลับคืนจากการซื้อที่อยู่อาศัย เจ้าของบ้านต้องจ่ายภาษีจากกำไรที่ขายได้ หากพักอาศัยอยู่ในบ้านไม่ถึง 2 ปี ระยะเวลาการพักอาศัยจึงสำคัญมาก และถ้าคิดว่าไม่สามารถพักอาศัยได้นาน ผู้ซื้ออาจคิดอีกทางหนึ่งคือซื้อเพื่อธุรกิจให้เช่าจะดีกว่า

@ "ฉลาดเตรียมตัวเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์" ไอเซนเบิร์กเตือนว่า แม้คุณสามารถซื้อหรือเป็นเจ้าของที่พักอาศัยได้ อย่าตัดสินใจง่ายๆ เพียงเพราะมีศักยภาพการเงินที่จะซื้อ แต่ขอให้แน่ใจก่อนว่าพร้อมจะใช้ชีวิต สามารถดำเนินการดูแลบำรุงสถานที่อยู่อาศัยได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม ในเมื่อการเป็นเจ้าของที่พักอาศัย หากเกิดชำรุดเสียหาย ผู้ซื้อหรือเจ้าของต้องเป็นคนจัดการ และต้องจ่ายเงินให้ช่างซ่อมแซมแทน

นอก จากนี้เจ้าของหรือผู้ซื้อ ยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายดูแลบ้านเป็นประจำด้วย ซึ่งรวมถึงงานบำรุงรักษาบ้านเล็กๆ น้อยๆ อย่างสนามหญ้ากับงานโกยหิมะ ในกรณีที่คุณซื้อที่พักอาศัยในต่างประเทศ ขอให้นึกถึงอนาคตหลังการซื้อว่า มีเวลากับพลังและความมุ่งมั่นที่จะดูแลอสังหาริมทรัพย์ของตัวเองอย่างจริง จังหรือไม่

@ "ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม" คือคำแนะนำสุดท้ายที่ไอเซนเบิร์กอยากให้ผู้บริโภคคนไทยในสหรัฐ เข้าไปตรวจสอบหาข้อมูลเพิ่มเติมได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จากเวบไซต์ www.360financialliteracy.org ของ American Institute of Certified Public Accountants' หรือ เอไอซีพีเอ

โดย คุณสามารถเจาะเข้าไปในเวบไซต์ข้าง ต้น เพื่อดูประเด็นและหัวข้อเกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคล เพื่อหาข้อมูลหรือทางเลือก ที่จะช่วยจัดการบริหารการเงินของตัวเองได้ สำหรับเวบไซต์ของเอไอซีพีเอนั้นรวบรวมบทความ วิธีการคำนวณ และเครื่องมืออื่นๆ ที่ช่วยให้คนไทยในสหรัฐและในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก รอบคอบและระวังทุกๆ ด้าน ก่อนตัดสินใจควักเงินซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรกในชีวิตของตัวเอง

บทความจาก
thaihomemasterm
โดย ดร.ศุภวิศวร์ ปัญญาสกุลวงศ์ และ คุณกฤษณ์ แย้มสระโส


By http://www.cmc.co.th/files/picture/activity/thumb/activity-thumb-1-1341473491.jpg

แก้เคล็ดบ้านใหม่

การสร้างบ้านควรการดูวันเดือนปีเกิด และเวลาเกิดของเจ้าของบ้าน ว่าสามารถสร้าง บ้านบน ที่ดินที่ต้องการได้หรือไม่ บางท่านอาจใช้วิธีเสี่ยงทายเพื่อขอเจ้าที่ในสถานที่ที่ต้องการไปอยู่ ซึ่งก่อนเสี่ยงทายต้องตั้งเครื่องบวงสรวงในที่ดินนั้นเพื่อไหว้เจ้าที่ก่อน  โดยให้จุดธูปไหว้  16   ดอกพร้อมตั้งเครื่องบวงสรวงที่ใช้สำหรับไหว้เจ้าที่เพื่อขึ้นบ้าน ใหม่ ประกอบไปด้วย



1. ซาแซ  (หมู เป็ด ไก่)
2. ผลไม้ 5 อย่าง
3. น้ำชา 5 ถ้วย  4. ดอกไม้สด 2 กำ
5. เทียนขาว 2 เล่ม
6. ธูป16 ดอก

วิธีไหว้อธิษฐานว่า
ข้าพเจ้า ชื่อ …………. นามสกุล …………….. ขออัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพยาฟ้าดิน พระภูมิเจ้าที่ เจ้าป่าเจ้าเขา นางไม้นางพรายต่างๆ ที่อยู่ในสถานที่นี้ ช่วยดล บันดาลให้ข้าพเจ้าชื่อ ………………… นามสกุล ……………… ที่จะมาสร้างบ้านเรือนอยู่ในสถานที่แห่งนี้   ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อนุญาต โดยการขออนุญาตนี้ข้าพเจ้าขอเป็นการเสี่ยงทาย

ขั้น ตอนต่อมาถึงเป็นการเสี่ยงทายด้วยไม้เสี่ยงทาย   ซึ่งหากจะขอเรื่องการดำเนินชีวิต ก็ให้ไหว้หันหน้าไปทางทิศใต้   หากขอเรื่องโชคลาภความเป็นอยู่ ก็ให้ไหว้หันหน้าไปทางทิศเหนือ ก็นำไม้ เสี่ยงทายมาโยนเพื่อไหว้อธิษฐานดังนี้

1. ถ้าไม้เสี่ยงทายมาโยน 2 ครั้ง ถ้าไม้เสี่ยงทายอันหนึ่งหงาย   อันหนึ่งคว่ำทั้ง 2 ครั้ง แปลว่า จะเกิดผลสำเร็จ
2. ส่วน การโยนไม้เสี่ยงทายครั้งที่ 3 เป็นการโยนเพื่อให้เกิดความมั่นคงซึ่งถ้าไม้เสี่ยงทายคว่ำทั้ง 2   อัน ก็หมายความว่ามั่นคง แต่ถ้าไม้เสี่ยงทายหงายทั้ง 2 อัน หมายความว่าเทพเจ้าหัวเราะ   (ไม่มั่นคง) และถ้าไม้เสี่ยงทายอันหนึ่งหงาย   อันหนึ่งคว่ำ   แสดงว่าประสบความสำเร็จ

อย่าง ไรก็ตามไม้เสี่ยงทายที่ว่านี้นับเป็นอุปกรณ์สำคัญในการสื่อสาร ระหว่างผู้ศรัทธากับอานุภาพขององค์ศักดิ์สิทธิ์ ใช้โยนเสี่ยงทายถามเรื่องราวต่างๆ และอ่านคำทำนายจากการหงายคว่ำของไม้สองซีกนี้ ซึ่งมีการใช้ไม้เสี่ยงทายลักษณะนี้มาช้านานนับแต่โบราณกาลถึงปัจจุบัน และไม้เสี่ยงทายถือเป็นอาญาสิทธิ์ของเทพ
บทความโดย: อ . ตั้ม ศรีนเรศพยากรณ์



Thaihomeonline : บ้านมือสอง ขายบ้าน

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ต่อเติมไม่ศึกษาผิดกฎหมายได้



การต่อเติมอาคารบ้านพักอาศัย หากมีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงตามใจชอบโดยไม่ศึกษาข้อกฎหมายให้ดี อาจมีความผิด และอาจต้องรับโทษได้

เช่น หลังจากทำสัญญาจะซื้อจะขายแต่ยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ซื้อ การต่อเติมอาคารด้านหลังที่เว้นไว้ 4 เมตร จนเต็มพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารนั้น กำหนดให้ผู้ที่จะก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคารต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นก่อน หรือให้แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นพร้อมทั้งดำเนินการตามมาตรา 39 ทวิ ก็เป็นอันใช้ได้
  
ส่วนการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการดัดแปลงอาคาร หรือไม่ กฎหมายกำหนดว่าการกระทำดังต่อไปนี้ (ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 11) ไม่ถือเป็นการดัดแปลงอาคาร เช่น

การเปลี่ยนโครงสร้างของอาคารโดย ใช้วัสดุขนาด จำนวน และชนิดเดียวกับของเดิม เว้นแต่การเปลี่ยนโครงสร้างของอาคารที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก คอนกรีตอัดแรง หรือเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ
การเปลี่ยนส่วนต่าง ๆ ของอาคารที่ไม่เป็นโครงสร้างของอาคาร โดยใช้วัสดุชนิดเดียวกับของเดิมหรือวัสดุชนิดอื่น ซึ่งเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้แก่โครงสร้างของอาคารเดิมส่วนหนึ่งส่วนใดเกิน ร้อยละสิบ
การเปลี่ยนแปลง การต่อเติม การเพิ่ม การลด หรือการขยายซึ่งลักษณะขอบเขต แบบ รูปทรง สัดส่วน น้ำหนัก เนื้อที่ส่วนต่าง ๆ ของอาคารที่ไม่เป็นโครงสร้างของอาคาร ซึ่งไม่เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับโครงสร้างของอาคารเดิมส่วนหนึ่งส่วนใดเกิน ร้อยละสิบ
การลดหรือขยายเนื้อที่ของพื้นที่ชั้นใดชั้นหนึ่งให้มีเนื้อที่น้อยลงหรือ มากขึ้นรวมกันไม่เกิน 5 ตารางเมตร โดยไม่ลดหรือเพิ่มจำนวนเสาหรือคาน
การลดหรือการขยายเนื้อที่ของหลังคาให้มีเนื้อที่มากขึ้นรวมกันไม่เกิน 5 ตารางเมตร โดยไม่ลดหรือเพิ่มจำนวนเสาหรือคาน
ดังนั้น จากข้อเท็จจริงจะพบว่าการต่อเติมดังกล่าว เป็นการต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ
นอกจากต้องระวางโทษตามวรรคหนึ่งแล้ว ยังต้องระวางโทษปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทตลอดระยะเวลาที่ยังคง ฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง (มาตรา 65 พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522) ซึ่งผู้ต่อเติม (ผู้จะซื้อ) น่าจะเป็นฝ่ายผิด เว้นแต่จะมีหลักฐานที่แสดงว่าฝ่ายผู้จะขายได้ให้ยินยอม (ให้ผู้จะซื้อทำการต่อเติมแทน) ในระหว่างที่ยังไม่มีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์


By http://www.cmc.co.th/files/picture/activity/thumb/activity-thumb-1-1341473491.jpg

เคล็ดลับเลือกต้นไม้ตกแต่งคอนโด


http://ddpromote.com/img/4c8/001/4c8001dc1f957119c31fc678aae444d0_0.jpg

การ ปลูกต้นไม้ในคอนโดฯ ที่มีพื้นที่จำกัด  อาจต้องเลือกมากสักนิด  เรามีเคล็ดลับในการเลือกต้นไม้และอุปกรณ์การปลูกมาฝากให้คุณได้ลองไปปลูกกัน 
1. เลือกชนิดของต้นไม้ควรเลือกตามพื้นที่ที่ต้อง การปลูก หากเราต้องการปลูกในห้อง ก็ต้องเลือกต้นไม้ที่ชอบอยู่ในร่ม ซึ่งโดยส่วนมากจะเป็นไม้ใบ เช่น พลูด่าง กวักมรกต เฟิน กระดาด  หมาก เขียว และเดป เป็นต้น แต่หากต้องการปลูกบริเวณระเบียง ก็ต้องดูว่า ระเบียงเราแดดจัด หรือแดดรำไร หากแดดจัด ควรปลูกไม้ดอกที่ทนแดด  เช่น แคคตัส ชวนชม โป๊ยเซียน แก้ว โมค และลีลาวดี เป็นต้น  หากแดดรำไร ก็ปลูกพวก กล้วยไม้ สับปะรดสี โฮย่า และโกสน เป็นต้น

2. ภาชนะ หรือกระถาง
ควร เลือกที่มีน้ำหนักเบาเพราะสะดวกต่อการเคลื่อน ย้ายและควรมีขนาดพอเหมาะกับขนาดของต้นไม้ที่สำคัญต้องมีที่รองกระถางด้วย เพื่อรองรับน้ำที่เหลือจากการดูดซับของดินในกระถางไม่ให้หกเลอะเทอะพื้น

3. วัสดุที่นำมาปลูก
ควร ระบายน้ำได้ดี เนื่องจากต้องรดน้ำบ่อยครั้งวัสดุอาจเกาะหรือรวมตัวกันแน่นได้  ทำให้ราก ไม่ได้รับออกซิเจน ซึ่งอาจผสมวัสดุหลายชนิดเช่น ดินร่วน ทราย  แกรบสด ขี้เท่าแกรบ ใบไม้ผุ ถ่านทุบ และปุ๋ยอินทรีย์ เป็นต้น

4. แสงสว่างหรือแสงแดดสำหรับต้นไม้
ต้นไม้ แต่ละชนิดต้องการปริมาณแสง ที่ไม่เท่ากัน หากได้รับปริมาณแสงน้อยอาจใบเหลือง แคระแกร็น หรือต้นอาจยืดยาวหาแสงได้  หากพบปัญหาเหล่านี้ควรจะปรับเปลี่ยนตำแหน่งของต้นไม้ให้เหมาะสม

5. ปริมาณน้ำที่รด
ต้นไม้ ที่ต้องการแสงมากก็ต้องการน้ำมากตามไปด้วย ซึ่งตามปรกติให้รดน้ำ 2 ครั้งต่อวัน  ส่วนต้นไม้ที่ต้องการแสงน้อยก็มักต้องการน้ำน้อย ตามไปด้วยโดยรดน้ำแค่ 1 ครั้งต่อวัน ก็เพียงพอแล้ว แต่หากอากาศร้อนอบอ้าวก็ให้รด 2 ครั้งต่อวัน โดยควรดูไม่ให้ดินแฉะหรือ มีน้ำขัง เพราะจะทำให้รากเน่าได้



Thaihomeonline บ้านมือสอง ขายบ้าน

วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การเลือกทำเล ที่ตั้งศาลพระภูมิ ให้ถูกต้อง

http://ajarnwichien.files.wordpress.com/2011/04/sdc100031.jpg

ก่อนอื่นต้องขอเรียนให้ผู้ที่ต้องการจะตั้งศาลพระภูมิให้ทราบกันว่า หากเป็นไปตามคำสอนของศาสนาพุทธนั้น ไม่จำเป็นต้องตั้งก็ได้หรือกล่าวได้ว่า ศาสนาพุทธไม่ได้สอนเรื่องการนับถือเทพเจ้าแต่อย่างใด แต่หากต้องการทำตามขนบธรรมเนียม ตามพิธีกรรมที่ชาวไทยพุทธได้สืบทอดกันมาเนิ่นนาน ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิด  แต่จะผิดหากตั้งแล้ว ไม่รู้ข้อเท็จจริง และไม่ดูแลให้ดี ปล่อยให้ศาลพระภูมิกลายเป็นเพียงเสาปูนที่ไร้ค่า หากเป็นเช่นนั้น ไม่ตั้งศาลพระภูมิซะเลย ย่อมดีกว่า สำหรับวันนี้ “บ้านไอเดีย” ขอนำข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตำแหน่งที่ตั้งศาลพระภูมิให้ถูกต้อง ดังนี้

- ตำแหน่งของศาลพระภูมิ ต้องไม่ถูกบดบังจากแสงเงาของตัวบ้าน
- ตำแหน่งของศาลพระภูมิ ควรอยู่ห่างจากห้องน้ำ ห้องส้วม รวมถึงไม่ควรหันหน้าเข้าหาที่ตั้งของห้องน้ำ
- หากตั้งศาลพระภูมิใกล้รั้ว หรือกำแพงบ้าน ควรเว้นให้มีระยะห่างอย่างน้อยประมาณ 1 เมตร
- ที่ตั้งของศาลควรอยู่บนบริเวณพื้นดิน ไม่อยู่ในระดับเดียวกันหรือต่ำกว่าระดับพื้นบ้าน หรืออาจทำแท่นฐานวางให้ยกสูงจากพื้นดิน ก็ยิ่งดี แต่หากไม่มีพื้นดิน สามารถตั้งบนดาดฟ้าได้
- ตำแหน่งของศาลพระภูมิ ไม่ควรตั้งให้หันหน้าตรงกับประตูหน้าบ้าน
- ระดับความสูงของศาล ควรให้สูงอยู่เหนือระดับสายตาของผู้เป็นเจ้าของบ้านพอประมาณ และไม่ควรให้ต่ำกว่าระดับสายตา



วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การเลือกซื้อบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjZMK6pahMoPrTY9b1t1pxcLiw9X4nDLepygEho3P0mkwGIRooN3LMRZGWb1QnPolgUdbLD_rOKJiuYSXpoz55r227NjUbs2rYYU9IahwNQwFmDIiXTylOf1UuA0pduy2oOuFIgTEi75ns/s320/AUN-3.jpg
บ้าน คือวิมานของเรา แต่จะมีซักกี่หลังที่ถูกใจผู้อยู่อาศัยดั่งคำนิยามนี้จริงๆ สำหรับผู้ที่งบน้อยคงหาวิมานแบบไร้ที่ติได้ยาก จึงจำต้องทนอยู่บ้านเล็กๆ คับแคบเนื้อที่น้อย หรือเพื่อนบ้านไม่เป็นมิตรต่อไปตามยัตถากรรม ถึงงบประมาณท่านจะมาก หรือน้อยเพียงใด ก็ไม่สำคัญไปกว่าการเลือกทิศทางที่ดีที่เหมาะสมกับตัวตนของท่าน บ้านก็จะสามารถเป็นพื้นที่ ที่ส่งเสริมดวงชะตาท่านให้ขึ้นสูงสุดในลิมิตที่ดวงท่านควรจะเป็นได้ วิธีการเลือกซื้อบ้านที่ดีและเสริมดวงของท่านมี 2 วิธีใหญ่ๆ ที่ท่านควรใส่ใจในรายละเอียดให้มากที่สุดคือ

1. การเลือกบ้านเลขที่
บ้าน เลขที่ๆ ดี เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งอิทธิพลให้กับการอยู่อาศัยบ้านใดที่มีบ้านเลขที่ดี คนอยู่อาศัยในบ้านก็จะมีแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง เงินทองไหลมาเทมา แต่ถ้าบ้านเลขที่ไม่ดี เลขไม่เป็นมงคลก็จะมีแต่ความเดือดร้อนวุ่นวายภายในบ้านนั้นนั่นเอง 
2. การเลือกทิศทาง
ทิศ ทาง ซึ่งอาจารย์ได้เกริ่นไปแล้วว่า ต้องเช็คจากดวงของแต่ละบุคคลๆ ไป เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาว่าทิศนี้เหมาะสมที่จะอยู๋อาศัย หรือทำกิจการใดๆ ต่อไปในภายหน้า
หลัง จากที่ได้ทิศทางที่เหมาะสมกับตัวท่านในการอยู่อาศัยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็เป็นการดูสภาพภายในบ้านว่ามีจุดใดขัดกับหลักฮวงจุ้ย และโครงสร้างของบ้าน มีจุดใดที่จะเป็นส่วนทิ่มแทงผู้อยู่อาศัยในบ้านหรือไม่และอาจารย์พิ้งค์ก็มี หลักการพิจารณา ในการเลือกบ้านอย่างคร่าวๆ ดังนี้  

หลักการเลือกซื้อบ้านที่ถูกหลักฮวงจุ้ย

1. ประตูรั้ว
บ้าน ที่มีประตูรั้วเล็กกว่าตัวบ้านเกินความพอดี จะส่งผลทำให้วาสนาของเจ้าของบ้านไม่สูงส่งอย่างที่ควรจะเป็น ประตูรั้วควรจะมีความสมดุลย์ และเหมาะสมกับตัวบ้าน และได้เลขที่เป็นมงคล เพราะประตูรั้วนั้นเปรียบเสมือนกับวาสนา ตัวตน ของท่านเจ้าของบ้านนั่นเอง 

2. โรงรถ
บ้าน ใดที่มีโรงรถไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ก็ถือว่าเป็นจุดที่ช่วยเสริมความเจริญให้กับท่านเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี และโรงรถก็ควรโล่งโปร่งสบาย อากาศถ่ายเทสะดวกจดรถได้อย่างสะดวกง่ายดาย ไม่คับแคบจนเกินไป 
3. ประตูบ้าน
ประตู บ้านนั้นก็เช่นเดียวกันกับประตู รั้ว คือต้องมีความสมดุลย์ และได้ขนาดที่มั่นคง ได้ตัวเลขที่เป็นมงคล เพื่อเป้นตัวช่วยส่งเสริมวาสนา ตัวตนของท่านเจ้าของบ้านได้อีกจุดหนึ่ง และที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง คือ ประตูรั้ว และประตูบ้าน ทั้งด้านหน้า และด้านหลังไม่ควรตรงกันทั้ง 3 บาน ควรตั้งเยื้องกันทุกบานเพื่อ ลดทอนความรุนแรงที่จะเกิดแก่ท่านเจ้าของบ้านไม่ให้เกิดความเสียหายร้ายแรง กระทบกับตัวตน และสุขภาพของเจ้าของบ้าน เพราะพลังงานที่พวยพุ่งตรงจากหน้าบ้านถึงหลังบ้านทันทีเป็นพลังงานที่รุนแรง เกินกว่าคนธรรมดาอย่างเราจะต้านทานไหว 

4. ห้องรับแขก
เปรียบ เสมือนหน้าตาของท่าน เป้นส่วนโชว์ความเป็นตัวตนของท่านให้แขกผู้มาเยือนได้รับความอบอุ่น ประทับใจ หรือ ลังเลที่จะใช้เวลานานๆ เป็นส่วนที่ช่วยส่งเสริมการคบค้าสมาคมกับเพื่อนฝูง และถ้าเป้นส่วนของห้องรับแขกในสำนักงานนั่นหมายถึง ลูกค้าท่านจะคับคั่ง หรือบางตา ก็อยู่ที่ห้องรับแขกนี่แหล่ะค่ะ
5. ห้องครัว
ควร เป็นห้องที่โล่ง โปร่งสบาย ไม่อับทึบ มีตู้มีแช่อาหารสด อาหารแห้ง มีเตาไฟ และซิงค์น้ำ ในตำแหน่งที่ดีและเหมาะสม เพื่อช่วยส่งเสริมความอุดมสมบูรณ์ของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคู่รักใหม่ หรือ ครอบครัวที่ใช้ชีวิตร่วมกันมานานแล้วก็ตาม ห้องครัวจะเป็นห้องที่มีความสำคัณสำหรับคนที่ต้องการประสบความสำเร็จใน เรื่องของชีวิตรักคู่ครองนั่นเอง
6. บันไดบ้าน
ที่ ดีความีความกว้างขวาง ฐานมั่นคง ก้าวเดินแต่ละก้าวแล้วมีความรู้สึกหนักแน่นมั่นคง และตำแหน่งของบันไดบ้านควรอยู่ในตำแหน้งที่ไม่ตรงกับประตูหน้าบ้านมากจนเกิน ไปซึ่งบันไดบ้านที่ดีจะช่วยส่งเสริมดวงท่านเจ้าของบ้านในเรื่องของอาชีพการ งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว
7. ห้องน้ำ
บ้าน ที่ดีไม่ควรมีห้องน้ำเกินกว่าจำนวน สมาชิกในบ้าน ห้องน้ำที่มากเกินไปทำให้เกิดการดูแลไม่ทั่วถึง และส่งผลให้ลูกหลาน บริวารไม่เชื่อฟัง หรือไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึงเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ท่านเจ้าของบ้านต้องมานั่งเหนื่อยใจกับลูกหลาน บริวารทั้งในบ้าน และที่ทำงาน และห้องน้ำที่ดีไม่ควรตั้งอยู๋เหนือลม เพราะจะทำให้กลิ่นเหม็นโชยย้อนกลับเข้าบ้านได้ และไม่ควรปล่อยให้ห้องน้ำเสื่อมโทรมและผุพังเพราะจะส่งผลให้ท่านไม่สามารถ ควบคุมดูแลบริวารท่านได้อย่างที่ใจนึก
8. ห้องนอน
ควร จะจัดสรรให้เหมาะสมกับสมาชิกแต่ละคน ในบ้าน ท่านที่ทำงานประจำต้องตื่นแต่เช้าออกทำงานทุกวัน ควรใช้ห้องนอนทิศตะวันออก เพื่อสุขภาพที่ดีในการนอนหลับสบายและตื่นแต่เช้าทุกๆ วันด้วยแสงแดดธรรมชาติ ส่วนท่านที่นอนดึกตื่นสายควรนอนในทิศตะวันตกแทน เพราะช่วยระยะเวลาการนอนจะมีมากกว่าห้องทางทิศตะวันออก สามารถนอนดึกและตื่นสายๆ ได้โดยไม่โดนรบกวนสายตา และความร้อนมาเยือนช้าลง
9. ห้องเก็บของ
สิ่ง ที่ขาดไม่ได้เลยในการเลือกบ้าน เพื่อเสริมฮวงจุ้ยด้านความมั่งคั่งร่ำรวยแก่ท่านเจ้าของบ้านคือห้องเก็บของ บ้านใดที่มีห้องเก็บของกว่างขวางดี นั่นย่อมนำมาซึ่งการเก็บเงินทองได้มากมายเช่นกัน 
10. สวนหย่อม
บ้าน ที่มีบริเวณมีเนื้อที่มากพอในการ จัดสวนได้รอบบ้าน จะเป็นส่วนช่วยเสริมด้านการแต่งสวนเพื่อเสริมสุขภาพ และการพักผ่อนที่ดีของท่านเจ้าบ้าน และยังเป็นตัวเสริมดวงด้านการเงินได้ในเวลาเดียวกันค่ะ
สำหรับ การเลือกบ้านที่ถูกหลักฮวงจุ้ยนั้น สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ ต้องตรวจดวงชะตาเพื่อให้แน่ใจเสียก่อนว่า ท่านเหมาะสมกับทิศทางใดมากที่สุด ในการเลือกสถานที่อยู่อาศัย หรือประกอบกิจการใดๆ ก็ตามที่ท่านต้องการ เพราะแต่ละกิจการก็จะต้องอาศัยปัจจัยที่แตกต่างกันออกไป
ซึ่ง ถ้าว่ากัน ตามหลักการที่ถูกต้องแล้ว ท่านควรจะเลือกตั้งแต่ก่อนซื้อที่ปลูกบ้านด้วยซ้ำ และเลือกตำแหน่งที่ดีที่สุดในพื้นที่ของท่านเพื่อทำการปลูกสร้าง และยังรวมไปถึงโครงสร้างภายในบ้านที่ดีก็จะเป็นตัวช่วยเสริมดวงท่าน เสริมธุรกิจท่านได้อย่างดีที่สุดส่วนนี้เป็นเรื่องของการวางจุดยุทธศาสตร์ ที่ดีที่สุด ไม่ต้องมานั่งแก้ไขกันในภายหลัง แต่ในยุคปัจจุบัน ผู้เลือกซื้อบ้านมักจะซื้อไปก่อนแล้ว และเกิดปัญหาจึงมาหาหนทางแก้ไขในภายหลัง ซึ่งก็จะต้องมาใช้ศาสตร์แห่งการแพทย์เพื่อเยียวยาแก้ไขกันไปในภายหลังจากที่ อยู๋อาศัยแล้วนั่นเอง
ที่มาของข้อมูล: Fengshui Win


วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ลวงตาให้สวนเล็ก ดูกว้างขึ้น


พื้นที่เล็กๆ แคบ ๆอาจทำให้คุณรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากในการจัดสวน จะจัดวางต้นไม้ จะใช้องค์ประกอบอย่างไรให้สวนนั้นดูไม่อึดอัดและน่าเข้าไปใช้งาน ในความเป็นจริงแล้วแม้สวนจะเล็กหรือพื้นที่จะแคบ เราก็สามารถลวงตาให้สวนดูกว้างขึ้นได้ด้วยไอเดียและเทคนิคง่ายๆ เหล่านี้ค่ะ

ลวงตาด้วยสีและลวดลาย

        การเลือกใช้ผนังสีอ่อนทำให้สวนดูกว้าง ส่วนการใช้สีเข้มบนผนังด้านใดด้านหนึ่งก็ให้ความรู้สึกว่าพื้นที่นั้นลึก กว่าความเป็นจริง เช่นกันกับลวดลายธรรมชาติบนผนังก็อาจลวงให้เราคิดต่อได้ว่าสวนนี้ยังต่อ เนื่องออกไปอีก ตลอดจนการใช้แนวเส้นเรขาคณิตหลอกว่ามุมนั้นกว้างและลึกกว่าเดิม ทั้งหมดนี้เป็นไอเดียง่ายๆที่เห็นผลได้จริง
หน้าต่างหลอก

                ผนังนี้ติดบานหน้าต่างและเพ้นต์รูปแมวให้เหมือนกับว่ามีห้องอยู่ด้านในอีก ห้องหนึ่ง ไอเดียนี้จะใช้กับการเพ้นต์รูปวิวทิวทัศน์ ต้นไม้ ท้องฟ้า ฯลฯ บนผนังด้านใดด้านหนึ่ง หลอกให้เหมือนสวนดูต่อเนื่องออกไปอีก  
ซุ้มประตูลวง

                ไอเดียการตกแต่งผนังโดยใช้เหล็กดัดเป็นลวดลายซุ้มและประตูที่วางแนวเส้นให้ รู้สึกว่าด้านหลังนี้ยังลึกเข้าไปอีก นอกจากจะทำให้ผนังที่ทึบๆดูโปร่งตาแล้ว ยังเป็นลูกเล่นตกแต่งผนังที่น่าสนใจด้วย
ผนังสีอ่อน

                การใช้สีอ่อนๆ คือเทคนิคพื้นฐานที่ทำให้พื้นที่ดูกว้างขึ้นได้ดีที่สุด หากเกรงว่าสีขาวจะดูเลอะเทอะง่ายเกินไป ลองเลือกใช้สีเบาๆ อย่างฟ้า เหลือง หรือม่วง จะทำให้สวนดูสดใสและตัดกับพรรณไม้ได้ดี โดยประกอบเข้ากับพรรณไม้ที่มีผิวสัมผัสละเอียดหรือแบบเส้น ก็ยิ่งทำให้สวนดูโปร่ง เบา
ลายตาราง

                เส้นสายแนวนอนและแนวตั้งของลายตารางช่วยให้พื้นที่ดูกว้างกว่าความเป็นจริง โดยเฉพาะหากปูในแนวเฉียงแบบสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด จะช่วยสร้างมิติให้ดูลึกมากยิ่งขึ้น เทคนิคเดียวกันนี้ยังใช้ได้กับการปูพื้นสลับสีแบบตารางหมากรุก หรือการเลือกใช้เส้นแนวนอนบนพื้นหรือผนัง ก็ช่วยให้พื้นที่ดูกว้างกว่าความเป็นจริง เช่นเดียวกับการสร้างเส้นยาวก็ช่วยให้พื้นที่นั้นดูสูงและลึกขึ้น

ลวงตาด้วยจัดวาง

        การวางผังในสวนที่ดีช่วยให้พื้นที่แคบๆดูใหญ่ขึ้นได้ สวนขนาดเล็กที่ต้องการให้เข้าไปใช้งานได้ไม่ควรมีต้นไม้มากเกินไป จัดพื้นที่ให้โล่ง และเรียบง่ายที่สุด นำฮาร์ดสเคปเข้ามาช่วย โดยทำเป็นลาน ที่นั่ง เดคไม้ รวมทั้งการเชื่อมต่อพื้นที่ออกมาจากภายในบ้านเพื่อขยายบริเวณออกมา ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยขยายอาณาเขตสวนให้กว้างขึ้นได้
ปลูกต้นไม้ชิดริม

                วางผังสวนโดยเปิดพื้นที่ตรงกลางให้โล่งและจัดต้นไม้ทั้งหมดให้อยู่บริเวณรอบ ๆจะเพิ่มพื้นที่การใช้งานได้มากขึ้น โดยไม่ปลูกต้นไม้ให้มีจำนวนมากหรือแน่นเกินไป พื้นที่ตรงกลางจะเป็นสนามหญ้า พื้นกรวด หรือลานพื้นแข็งก็ได้
เชื่อมต่อพื้นที่

               การจัดวางมุมพักผ่อนในสวนให้ต่อเนื่องออกมาจากบ้านก็เป็นอีกแนวทางในการขยาย พื้นที่ทั้งสองส่วนให้กว้างขึ้น ทำเป็นลานเชื่อมออกมา จะเป็นเดคไม้หรือพื้นแข็งใดๆก็ได้ตามสะดวก ออกแบบให้มีหลังคาคลุมเพื่องป้องกันฝน ทำที่นั่งยกสูงขึ้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ติดอยู่กับที่ก็เหมือน
เป็นอีกห้องในบ้าน
ยกระดับ

               เป็นอีกวิธีในการสร้างขอบเขตที่ช่วยให้เราเพิ่มลูกเล่นได้มากขึ้น เราสามารถซ่อนไฟหรือปลูกต้นไม้ในจุดที่เปลี่ยนระดับ เป็นการใช้ระยะทางสูงแม้เพียงเล็กน้อยให้เกิดประโยชน์
มุมเดียวหลายฟังก์ชัน

               ออกแบบพื้นที่เล็ก ๆให้เป็นทั้งมุมพักผ่อน บ่อน้ำ และผนังน้ำตก โดยวางสเปซให้เป็นสี่เหลี่ยมหลาย ๆก้อนมาต่อกัน มีกระบะต้นไม้และผนังน้ำตกเล่นระดับสูง-ต่ำในแนวระนาบและแนวดิ่ง ลดทอนความแข็ง ระแนงไม้พรางแสงด้านบนยกให้สูงเว้นช่องให้ต้นไม้โผล่พ้นขึ้นไปได้จึงโปร่งตา วางแพตเทิร์นพื้นให้เกิดความต่อเนื่องจึงดูกว้างขวางน่าใช้งาน
ลวงตาด้วยวัสดุ

     วัสดุที่หลากหลายช่วยแบ่งพื้นที่ สร้างขอบเขตและสัดส่วนให้ดูแคบหรือกว้างได้ วัสดุที่มันวาวสร้างระยะลวงที่ดูกว้างกว่าเดิม ตลอดจนพรรณไม้ที่ใบมีผิวสัมผัสละเอียดก็ทำให้พื้นที่ดูโล่งกว่าพรรณไม้ที่มี ใบใหญ่

กระจกเงาสะท้อนสวน

              เป็นอีกวัสดุที่ช่วยสร้างภาพลวงให้สวนดูกว้างขึ้นได้ง่าย ๆ การทำผนังกระจกด้านใดด้านหนึ่งในสวนช่วยต่อพื้นที่ให้ดูเหมือนสวนกว้างเข้า ไป เราไม่จำเป็นต้องใช้กระจกเงาทั้งหมด อาจปรับเปลี่ยนเป็นวัสดุที่มีผิวมันวาวทดแทนได้เช่นกัน
กระจกใสดูต่อเนื่อง

               เปลี่ยนผนังห้องที่เชื่อมต่อกับระเบียงเป็นผนังกระจกบานเลื่อนใส นอกจากจะทำให้ห้องนอนดูกว้างขึ้นแล้ว ยังทำให้สวนสวนแคบๆริมระเบียงดูกว้างขึ้นอีก ส่วนที่นั่งในสวนยกพื้นให้เท่ากับพื้นห้องนอนยื่นออกมาเป็นเดคไม้เล็ก ๆที่ด้านล่างใช้เก็บของได้ด้วย
วัสดุต่างสร้างขอบเขต

               ฮาร์ดสเคปคือส่วนสำคัญที่ทำให้สวนมีสเปซที่ดูกว้างกว่าเดิม โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลสวนมากนัก ก็ไม่จำเป็นต้องปลูกต้นไม้มากเกินไป แต่ปรับให้มีพื้นแข็งก็จะดูแลง่ายในระยะยาว
ลวงตาด้วยระยะและสัดส่วน

               การกำหนดระยะของสิ่งปลูกสร้างและพรรณไม้ช่วยสร้างช่องว่างลวงตาให้พื้นที่ นั้น ๆ ดูกว้างกว่าความเป็นจริง เลือกพรรณไม้ยืนต้นที่มีขนาดเล็กรูปทรงชะลูด ตัดแต่งกิ่งให้เป็นพุ่มเฉพาะด้านบน เพิ่มระยะแนวสูงในสวน แนวแปลงต้นไม้ก็ช่วยกำหนดมุมใหม่ได้ทั้งใกล้และไกล เป็นต้น
ลึกด้วยแนวต้นไม้

               ปลูกต้นไม้เป็นแนวยาวนำสายตาเข้าไป ทำให้สวนดูลึกกว่าความเป็นจริง เลือกใช้พรรณไม้รูปทรงธรรมชาติ ขนาดใบเล็กปลูกเป็นกลุ่ม ใช้ไม้ยืนต้นที่มีตัดแต่งทรงพุ่มให้สูงเหนือศีรษะขึ้นไป
สูงด้วยทรงพุ่ม

              เลือกใช้ไม้ต้นขนาดเล็กให้เหมาะสมกับพื้นที่ ริดกิ่งด้านล่างออกโดยให้เกิดพุ่มใบด้านบนที่ระยะความสูง 2 เมตรขึ้นไป เพื่อเปิดระยะด้านบนให้ดูโปร่งตา โดยเลือกชนิดที่มีลำต้นและเปลือกสวยงามเพื่อโชว์ผิวด้านล่าง เช่น  พุดจีบ เหลืองปรีดียาธร หลิว   
ช่องลวงตา

              การสร้างกรอบโดยเปิดช่องให้กว้างเหมือนเป็นประตูบานใหญ่ทำให้สวนดูต่อเนื่อง ถึงกัน ทั้งยัง กำหนดให้พื้นที่นั้นๆจำกัดอยู่ในภาพที่มองแต่ก็ไม่ปิดกั้น กรอบนี้ยังช่วยสร้างระยะตื้นลึกให้มีความชัดเจนมากขึ้นอย่างคาดไม่ถึงเลยที เดียว  
ที่แคบมากประโยชน์

               พื้นที่ข้างที่จอดรถดูเหมือนจะใช้งานยาก ผู้ออกแบบใช้วิธีทำกระบะสูงขึ้นมาและปลูกต้นไม้ให้ลอยอยู่ด้านบนในระยะที่ นั่งแล้วได้ชื่นชมต้นไม้พอดี และกระบะปลูกไม้ยืนต้นอีกด้านเป็นตัวปิด การทำกระบะต้นไม้ให้ต่อเนื่องกันแบบนี้ช่วยลวงตาให้รู้สึกว่ามีพื้นที่ปลูก ต้นไม้มากขึ้น ทั้งยังใช้งานง่ายกว่าปลูกต้นไม้ลงดินในระดับพื้นล่าง นอกจากนี้ยังสร้างพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนขึ้นโดยยกพื้นไม้ขึ้นมาเล็กน้อยเป็น ลานเล็ก ๆพอที่จะวางที่นั่งสองคนได้สบาย