วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

10 วิธีเตรียมสวนและสนามหญ้ารับมือหน้าหนาว

http://www.tomcorsonknowles.com/blog/wp-content/uploads/2012/07/Eco-friendly-garden.jpg

    ในช่วงฤดูหนาว อากาศเย็น ๆ บวกกับความแห้งในอากาศ ทำให้หลายคนได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เริ่มเกิดขึ้นกับสนามหญ้า และต้นไม้ในสวนของตัวเองบ้าง ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีทั้งการเปลี่ยนแปลงในด้านดี สำหรับต้นไม้ที่ไม่มีปัญหากับความเย็นและอากาศแห้ง ๆ กับการเปลี่ยนแปลงในทางลบ ที่เกิดขึ้นกับต้นไม้และหญ้าบางชนิด แต่ก่อนจะเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา จนสนามหญ้าและสวนของเราหมดสวย ลองมาดูวิธีเตรียมรับมือกับสภาพอากาศเย็น ๆ ให้สนามหญ้าและสวนกันไว้ก่อนดีกว่านะคะ

 1. เปิดทางความชื้นและแสงแดดด้วยคราด

           ช่วงหน้าหนาวน้ำค้างจะค่อนข้างแรงก็จริง แต่อากาศกลับแห้งกว่าฤดูอื่น ๆ  ทำให้ดินมีโอกาสแห้งแล้งได้ ดังนั้นเราควรเปิดทางให้ความชื้น และแสงแดด ซึ่งเป็นอาหารสำคัญของพืช ผ่านเข้ามาบำรุงถึงรากต้นไม้ได้อย่างสะดวก โดยคุณควรใช้คราดกำจัดใบไม้ รวมทั้งสิ่งกีดขวางอื่น ๆ ที่ปกคลุมหน้าดินอยู่ให้โล่งที่สุด ป้องกันปัญหารากตาย และใบเป็นจุดสีน้ำตาล

 2. อย่ารีบร้อนตัดแต่งกิ่งไม้

           เหตุผลอันดับแรกของการตัดแต่งกิ่งต้นไม้ ก็เพื่อเร่งให้ต้นไม้ผลัดใบ และเจริญเติบโตได้รวดเร็วขึ้น แต่ในฤดูหนาวที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยให้ปลูกต้นไม้อย่างนี้ เราก็ควรเลี่ยงการตัดแต่งกิ่งไม้ไว้ก่อน หรือหากคุณจำเป็นจะต้องตัดเล็มกิ่งไม้จริง ๆ น่าจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องต้นไม้และสวนสักนิดก่อนค่ะ

 3. รักษาความชื้นให้ต้นไม้ที่ปลูกมานาน

           ต้นไม้ใหญ่ และต้นไม้ที่ปลูกไว้นานแล้ว มักจะมีส่วนที่ตายและห่อเหี่ยวไปเอง ซึ่งส่วนเหล่านี้ของต้นไม้ เป็นคล้าย ๆ ไส้ติ่งของมนุษย์อย่างเรา ๆ ที่ไม่มีความสำคัญ แถมยังเป็นส่วนที่เกะกะอีกต่างหาก ฉะนั้นในฤดูหนาวที่ต้องการรักษาความชื้นให้ต้นไม้มากที่สุด ก็ควรจัดการกับไส้ติ่งเหล่านี้ให้สิ้นซาก อ้อ ! ในกรณีแบบนี้คุณสามารถตัดเล็มกิ่งไม้ได้ตามสบายเลยค่ะ

 4. จับไม้ล้มลุกมาทำปุ๋ย

           อาจจะดูเหมือนใจร้าย แต่ถึงแม้เราจะพยายามดูแลบรรดาไม้ล้มลุกอย่างดีแค่ไหน เจ้าพืชอายุไม่ยืนเหล่านี้ก็รอดเงื้อมมือหน้าหนาวลำบากอยู่ดี ดังนั้นคงดีกว่าหากเราจะนำไม้ล้มลุกมาทำเป็นปุ๋ยหมักซะเลย ก่อนจะต้องปวดใจกับสภาพเหี่ยวเฉาของเขาให้รำคาญตา
 5. พืชปกคลุมช่วยได้

          ถ้าอยากรักษาความชื้นให้ดินได้มาก ๆ แนะนำให้ปกคลุมดินเอาไว้เลย เลือกใช้พืชคลุมดินที่มีขายตามร้านต้นไม้ หรือจะนำซากพืชและปุ๋ยมาผสมกันแล้วปกคลุมดินก็ได้หมด แต่เคล็ดลับอยู่ที่คุณต้องเกลี่ยพืชคลุมดินให้รอบต้นไม้ในลักษณะรูปวงกลมโด นัท อย่าโรยพืชคลุมดินเป็นเนินเหมือนภูเขาไฟ เพราะส่วนลำต้นเราไม่ต้องปกคลุมเขาให้เปลืองพืชคลุมดินก็ได้

 6. อนุบาลต้นไม้เล็กด้วยกระสอบ

           นอกจากต้องคลุมหน้าดินรักษาความชื้นให้ดินแล้ว เหล่าต้นไม้เด็ก ที่เพิ่งปลูกเมื่อไม่นานมานี้ ก็ควรดูแลเขาให้ดีด้วย อย่างแรกให้หากระสอบ หรือพลาสติกเจาะรูมาคลุมต้นไม้เบบี๋ไว้ก่อน รอจนเขาเติบโตพอจะต่อสู้สภาพอากาศแห้งชื้นด้านนอกได้ค่อยปล่อยเป็นอิสระ

 7. ได้เวลาปลูกพืชชนิดหัว

           ไม้หัวหลายชนิดชื่นชอบอากาศเย็น ๆ และสามารถทนกับความแห้งแล้งในอากาศได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น ว่านสี่ทิศ บัวดิน ฯลฯ ซึ่งหากอยากปลูกต้นไม้เพิ่มความสวยงามให้สวน ก็สามารถเลือกปลูกพันธุ์ไม้เหล่านี้ได้เลยค่ะ

 8. พลิกหน้าดินเติมธาตุอาหาร

           สำหรับสนามหญ้า คุณอาจจะลองพลิกหน้าดิน เพื่อเปิดโอกาสให้ความชื้นและแสงแดดส่องเข้าไปบำรุงรากต้นไม้โดยตรงบ้างก็ ได้ นอกจากนี้หากลงทุนพลิกหน้าดินแล้ว ก็ควรถือโอกาสใส่ปุ๋ยและธาตุอาหารที่จำเป็นกับต้นหญ้าไปด้วยเลยยิ่งดีจ้า

 9. ใส่ปุ๋ยคอกบำรุงต้นไม้อย่างถูกสูตร

           ปุ๋ยคอกเป็นปุ๋ยที่น่าจะปลอดภัยกับพืชและสิ่งแวดล้อมมากที่สุด เนื่องจากมีส่วนผสมจากธรรมชาติด้วยกัน แต่ก่อนจะใส่ปุ๋ยคอกให้พืช คุณก็ควรตรวจสอบก่อนว่าพืชแต่ละชนิดต้องการปุ๋ยคอกในอัตราเท่าไร และปุ๋ยคอกสูตรไหนจะเหมาะกับดินของคุณ เพื่อให้ดินและต้นไม้เติบโตได้อย่างสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม

 10. ใส่ใจต้นไม้ทุกต้นอย่างดีที่สุด

           เตรียมพร้อมต้นไม้กันไปแล้ว ต่อไปนี้ก็ต้องใส่ใจดูแลต้นไม้ใบหญ้าทุกต้นอย่างเต็มที่ด้วย หมั่นรดน้ำอย่างถูกวิธี กำจัดวัชพืช บำรุงดินและพืชด้วยปุ๋ย และพยายามเล็มกิ่งไม้ ใบไม้ที่แห้งตายแล้วออกไป เพื่อลดการคายน้ำของพืช และเพื่อรักษาความชื้นไว้ใช้ในส่วนจำเป็นให้ได้มากที่สุด


           ใครที่อยากดูแลสนามหญ้าและสวนให้สวยในหน้าหนาวนี้ ก็อย่าลืมนำวิธีดูแลต้นไม้เพื่อรับมือหน้าหนาวเหล่านี้ไปใช้ตามที่เราแนะนำ กันด้วยนะคะ จะได้มีสวนสวย ๆ ไม่หวั่นในทุกสภาพอากาศ

บทความอื่นๆน่าสนใจ
-
10 วิธีเตรียมสวนและสนามหญ้ารับมือหน้าหนาว
-
15 วิธีคลายร้อนให้บ้าน
-
ดูฮวงจุ้ย ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโด
-
5 วิธี แต่งคอนโดขนาดเล็กให้ดูกว้าง
- โฆษณาคอนโด แบบไหนที่ผิดกฎหมาย

วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

15 วิธีคลายร้อนให้บ้าน

http://ajdweb.com/wp-content/uploads/2014/06/home-garden-design-software-free.jpg

วิธีคลายร้อน

ช่วง นี้อากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะอยู่แต่ในบ้าน เพื่อให้ไม่ต้องไปเจอกับแดดร้อนๆ ที่เผาจนผิวแทบไหม้ในตอนกลางวัน แต่อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนั้นก็อาจทำให้เราต้องช็อกกับบิลค่าไฟที่พุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจจาก การเปิดแอร์ทั้งวันได้เช่นกัน ดังนั้น จึงขออาสานำเคล็ดลับดีๆ วิธีคลายร้อนให้กับบ้านของคุณโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาฝาก 
  1. เปลี่ยนผ้าม่านของคุณเป็นม่านแบบโซล่า ซันสกรีน ชั่วคราว เพื่อจะได้ช่วยกันแสงแดดได้ดีขึ้น ในขณะที่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดีเหมือนเดิม
  2. ใช้ฟิล์มกรองแสงเคลือบหน้าต่างห้องที่อยู่ทางทิศตะวันตก และตะวันออก เพื่อกันแสดงแดดแรงๆ ที่จะส่องเข้ามาในบ้าน
  3. ติดกันสาดเฉียงประมาณ 45 องศาบริเวณหน้าต่าง เพื่อลดแสงแดดที่เข้ามาในห้องได้ถึง 65 - 77 %
  4. เลือกใช้หลังคาสีอ่อนและพ่นฉนวนกันความร้อนอีกชั้น จะช่วยกันความร้อนที่แผดเผาเข้ามาผ่านหลังคาได้ดีขึ้น
  5. ใช้สีสว่าง เช่น สีขาวแต่งห้อง จะได้ไม่ดูดความร้อนเหมือนสีเข้มๆ เช่น สีดำ
  6. ปลูก ต้นไม้บริเวณหน้าบ้าน และหาไม้ประดับเล็กๆ มาไว้ในบ้าน โดยเฉพาะในห้องที่อยู่ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก เพื่อให้อากาถ่ายเทได้มากขึ้น
  7. เปลี่ยนฟิลเตอร์แอร์เป็นประจำ อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้แอร์ของคุณทำงานได้ดี โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนเป็นพิเศษ
  8. เลือกซื้อพัดลมแบบติดเพดาน อากาศในห้องจะได้ถ่ายเททั่วถึงมากขึ้น โดยไม่ทำให้ค่าไฟพุ่งสูงมากนัก
  9. ใช้หลอดไฟแบบตะเกียบ เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน ซึ่งจะช่วยให้ความร้อนในห้องลดลงด้วย
  10. พยายามอย่าเปิดหน้าต่างในช่วงกลางวัน ลมร้อนจากข้างนอกจะได้ไม่เข้ามาสะสมภายในบ้าน
  11. หากคุณไม่คิดจะเปิดแอร์ตอนกลางคืน ก็ควรเปิดหน้าต่างไว้ เพื่อให้ลมเย็นในช่วงกลางคืนเข้ามาในบ้าน
  12. อย่า นำเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น โทรทัศน์ไปไว้ใกล้ๆ เครื่องปรับอากาศ เพราะจะทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้น จนประสิทธิภาพลดลง
  13. พยายามใช้ไมโครเวฟ หรือเครื่องปิ้งขนมปัง แทนเตาแก๊ส ที่จะทำให้ไอร้อนอบอวลอยู่ในบ้าน
  14. เปิดประตูห้องน้ำ และห้องนอน ไว้เสมอ จะช่วยให้อากาศในบ้านถ่ายเทมากขึ้น
  15. ใช้กระเบื้อง หรือหินอ่อนปูชั้นล่าง เพราะกักเก็บความเย็นจากพื้นดินได้เป็นอย่างดี
เพียง แค่ทำตาม 15 วิธีคลายร้อน ก็จะช่วยให้บ้านของคุณคลายร้อนลงได้มาก ลองเลือกดูข้อที่เหมาะสมกับบ้านของคุณ แล้วนำไปลดความร้อนให้บ้านกัน


บทความอื่นๆน่าสนใจ

-
15 วิธีคลายร้อนให้บ้าน
-
ดูฮวงจุ้ย ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโด
-
5 วิธี แต่งคอนโดขนาดเล็กให้ดูกว้าง

- โฆษณาคอนโด แบบไหนที่ผิดกฎหมาย

วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ดูฮวงจุ้ย ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโด


https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiMxzwwP7R5POGI6_62bw5leujuCMK8iNCoGoD9FpswgpnWF8rt8yNCq_f4859Buf3bVdJ5UCPjOrTRwOctGANRq7A4c5wulUqnwALM0yfKFmAfbfjDIRE5puAvn2ORxBySKK59bXjuqg0/s1600/Screen-Shot-2555-07-09-at-3.34.00-PM-540x334.png


ก่อน การตัดสินใจเลือกซื้อคอนโด เราควรพิจารณาสิ่งประกอบหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นทำเลคอนโด ขนาดของห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สิ่งที่ควรคำนึงไม่แพ้กันคือ ฮวงจุ้ยของคอนโด เพราะฮวงจุ้ยจะดีหรือไม่ดี สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัย งั้นเรามาดูข้อควรพิจารณาเบื้องต้นก่อนซื้อคอนโดกันเลยดีกว่า
1. พิจารณาที่ตัวคอนโด ว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีหรือไม่ เพราะถ้าคอนโดทั้งหลังมีฮวงจุ้ยที่ดีแล้ว ห้องที่อยู่ภายในทั้งหมดก็จะได้รับผลดีไปด้วยคอนโด ที่ได้ชื่อว่าฮวงจุ้ยดี คือ อยู่ใกล้แหล่งชุมชน ไม่อยู่โดดเดี่ยวหลังเดียว เส้นทางเข้าต้องไม่อยู่ห่างจากถนนใหญ่มากเกินไป

สิ่ง ปลูกสร้างรอบ ๆ ต้องไม่มีลักษณะร้าย เช่น สะพานลอยทางด่วน ทางรถไฟ ทางยกระดับพาดผ่าน หรือมีเสาไฟฟ้าแรงสูง เสาอากาศวิทยุหรือโทรทัศน์ขนาดใหญ่อยู่ใกล้,ต้องไม่มีเหลี่ยมมุมของอาคาร ข้างเคียงพุ่งเข้าสู่อาคาร หรืออยู่ระหว่างซอกตึกของอาคารตรงข้าม, ต้องไม่แวดล้อมด้วยอาคารที่สูงกว่า และไม่อยู่ติดวัด ศาลเจ้า สุสาน ป่าช้า

2. การหาตำแหน่งห้องที่ดี จะต้องพิจารณาด้านทั้งสี่ของอาคารเป็นหลัก คำถามที่ผมมักจะเจออยู่บ่อย ๆ ก็เห็นจะเป็น "จะเลือกห้องไหนถึงจะดี" หลักในการเลือกจะต้องดูด้านทั้ง 4 ของคอนโดฯ ดูว่าด้านไหนดีที่สุดก็เลือกด้านนั้น ด้านที่ดีส่วนใหญ่จะเป็นที่โล่ง ไม่มีอาคารอื่นปิดบังห้องมีสวนสระน้ำ แม่น้ำ ทะเลสาบ หรือทัศนียภาพที่สวยงาม

3. ดูทิศทางเพื่อเลือกตำแหน่งห้อง การดูทิศถือว่าสำคัญมาก การจะเลือกห้องอยู่ทางทิศไหนนั้นมีหลักในการพิจารณาง่าย ๆ ดังนี้

- ด้านเหนือ อับลม
- ด้านใต้ รับลม
- ด้านตะวันออก รับแสงตอนเช้า
- ด้านตะวันตก รับแสงตอนบ่าย

ความ สมดุลในเรื่องของลมและแสงจะไม่สมดุลอยู่แล้ว ถ้าเลือกตำแหน่งห้องที่อับลมอีก ห้องนั้นจะไม่มีการหมุนเวียนของลมเลย ย่อมส่งผลเสียต่อผู้อยู่อาศัยได้ง่าย โดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพ


เลือกคอนโดชั้นไหน ดีกับผู้อยู่อาศัย
- ดูฮวงจุ้ย ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโด
-
5 วิธี แต่งคอนโดขนาดเล็กให้ดูกว้าง

- โฆษณาคอนโด แบบไหนที่ผิดกฎหมาย