พื้นไม้ลามิเนต จะเป็นการนำกระดาษพิมพ์ลายปิดบนไม้ HDF แล้วปิดด้วยแผ่นเมลามีน โดยจุดเด่นนั้นอยู่ที่ความทนทาน ราคาประหยัด และมีลวดลายและขนาดให้เลือกหลากหลาย จึงเป็นที่นิยมในการนำมาใช้สำหรับบ้านและคอนโด
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ จะเป็นการใช้ผิวไม้จริงเคลือบผิวรักษาลายไม้แล้วปิดบนแผ่นไม้ HDF จะทำให้ได้สัมผัสที่หรูหรากว่าเสมือนไม้จริง แต่ราคาประหยัดกว่า มักนิยมใช้สำหรับบ้านและคอนโดระดับไฮเอนด์
ปัจจุบันนั้นพื้นไม้ลามิเนตได้มีการพัฒนาขึ้นมาก ทั้งมีหลายความหนา หลายขนาดหน้าไม้ รวมไปถึงลายของไม้อีกด้วย และยังเพิ่มการทนความร้อนให้ดียิ่งขึ้นอีก โดยพื้นไม้ลามิเนตนั้นจะนิยมใช้ในคอนโดมิเนียมระดับราคาตั้งแต่ 900,000 บาทไปจนถึง 7-8 ล้านบาท แต่สำหรับพื้นไม้เอ็นจิเนียน์นั้นจะนิยมใช้ในคอนโดมิเนียมระดับลักซูรี่เท่า นั้น ราคาตั้งแต่ 8-9 ล้านบาทขึ้นไป
สำหรับวิธีการเลือกใช้พื้นไม้ มีดังนี้
1. เลือกจากแบรนด์ที่ไว้ใจได้ ป้องกันปัญหาวัสดุเกรดต่ำทำให้พื้นบิดเบี้ยว บวมความชื้น ไม่ทนทาน
2. พื้นลามิเนตสามารถทำความสะอาดด้วยการดูดฝุ่นได้
3. พื้นลามิเนตทนต่อความร้อน และรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี
4. ก่อนปูพื้นต้องมั่นใจว่าพื้นห้องแห้งดีแล้ว โดยการทิ้งระยะเวลาคายความชื้นของพื้นเอาไว้ 14-30 วัน
5. ทั้งพื้นไม้ลามิเนตและพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ถึงจะทนต่อความชื้นได้ แต่ก็ไม่สามารถนำมาแช่น้ำได้
6. การปูพื้นต้องเว้นระยะห่างจากผนังไว้ประมาณ 12 เซนติเมตร สำหรับเผื่อระยะการขยายตัวของไม้
เรียบเรียง : ฤทธิ์ษณะ น้อยกมล
แหล่งข้อมูล : Home.co.th
บทความอื่นๆน่าสนใจ
- ข้อควรรู้เรื่องพื้นไม้- เสริม “ฮวงจุ้ย” ห้องนอนลูกรัก
- The Cubitat กล่องสี่เหลี่ยมเอนกประสงค์
- เจาะลึก 8 กลยุทธ์ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ฮ็อตฮิตของโลก
- เลือกคอนโดฯ ใกล้รถไฟฟ้า ให้ถูกฮวงจุ้ย
- วางแผนระบบพลังงานภายในบ้าน สิ่งที่จำเป็นที่ต้องจัดเตรียมล่วงหน้า
- 5 Gadget สุดฮิตที่จะเนรมิตรบ้านให้เป็น Smart Home
- แก้ปัญหาพื้นที่เล็กๆบนคอนโด
- 9 จุด เตรียมบ้านรับหน้าฝน
- 5 ข้อห้ามลืม ออกแบบห้องน้ำแคบให้ดูกว้าง ใช้สะดวกสบาย
- วิธีการคำนวณค่าเช่าคอนโดเพื่อเพิ่มตอบแทน
- 6 วิธี ตกแต่งห้องน้ำให้สดใส มีชีวิตชีวา
- 10 ไอเท็มบนโต๊ะทำงานที่คุณควรจะมี
- 8 ยอดกลยุทธ์ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
- วิธีการตรวจรับห้องคอนโด อย่างง่าย
- ทุกวันนี้เราต้องเสียภาษีอะไรกันบ้าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น