ไทยโฮมออนไลน์ - อันดับ 1 ในเรื่องบ้านมือสอง: พฤศจิกายน 2015

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

การตีราคาอสังหาริมทรัพย์

ภาพจาก : safeguardproperties.com

การตีราคาอสังหาริมทรัพย์เป็นเรื่องยากและซับซ้อน วันนี้เราจึงมีคำแนะนำทั่วไปสำหรับผู้ขายที่อยากเรียนรู้พื้นฐาน แม้ว่าโดยปกติแล้ว เมื่อเราต้องการขายอสังหาริมทรัพย์ คนส่วนใหญ่มักเลือกจ้างนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่จะมาคอยช่วยในเรื่องการตีราคาอยู่แล้ว

สำรวจบ้านที่มีลักษณะคล้ายกัน

ไม่ว่าจะซื้อหรือขายอสังหาริมทรัพย์ ควรมองหาบ้านที่มีลักษณะคล้ายกันที่อยู่ในละแวกเดียวกัน โดยสามารถหาข้อมูลออนไลน์หรือจากทางหนังสือพิมพ์

พิจารณาทั้งบ้านที่อยู่ระหว่างประกาศขายและที่ขายไปแล้ว จะช่วยทำให้คุณรู้ว่า ราคาแข่งขันในตลาดสำหรับบ้านแบบนี้ในละแวกนี้เป็นอย่างไร

ใช้วิธีตีราคาแบบตารางเมตร หรือตารางวา

การตีราคาแบบตารางเมตรหรือตารางวานั้น ใช้วิธีวัดพื้นที่ภายในของอสังหาริมทรัพย์ หากวัดขนาดห้องโถงอาจต้องใช้การประเมินพื้นที่ แต่ถ้าวัดขนาดห้องนั้น การวัดจะง่ายกว่า เช่น หากห้องมีขนาด 10 x 10 ตารางเมตร พื้นที่ของห้องก็จะเท่ากับ 100 ตารางเมตร

เมื่อคำนวณพื้นที่ทั้งหมดได้แล้ว นำราคาของอสังหาริมทรัพย์หารด้วยขนาดพื้นที่ เพื่อหาราคาต่อตารางเมตร วิธีเปรียบเทียบราคาต่อตารางฟุตนั้นจะช่วยให้เห็นได้ว่าอสังหาริมทรัพย์แห่งใดที่ราคาสูงกว่า

ในกรณีที่คุณไม่สามารถหาอสังหาริมทรัพย์ที่คล้ายกันมาเปรียบเทียบราคาได้ วิธีนี้ก็ยังเป็นประโยชน์อีกด้วย โดยอาจเป็นเพราะคุณอยู่ในย่านที่อสังหาริมทรัพย์แตกต่างทั้งด้านสถาปัตยกรรม ขนาดและสไตล์ ถ้าในกรณีนี้ให้เลือกอสังหาริมทรัพย์มาประมาณ 5 แห่งที่มีลักษณะคล้ายอสังหาริมทรัพย์ของคุณที่สุด นำพื้นที่ของแต่ละแห่งมาบวกกันแล้วหารด้วยจำนวนบ้านเพื่อหาพื้นที่โดยเฉลี่ย

หลังจากนั้น ให้ทำแบบเดียวกันกับราคาเพื่อหาราคาเฉลี่ย นำราคาเฉลี่ยหารด้วยตารางเมตรเฉลี่ยเพื่อหาราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร หากต้องการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ของคุณ ให้นำราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรคูณด้วยพื้นที่ (แต่วิธีเป็นเพียงการประเมินเท่านั้น ถ้าคุณอยากทราบราคาที่แม่นยำกว่านี้ ควรให้ผู้ตีราคามาประเมินดีกว่า)

พิจารณาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

ควรพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ใกล้อสังหาริมทรัพย์ด้วย เช่น อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT หรือรถไฟฟ้า BTS หรือสถานีรถประจำทาง หรือไม่ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า คลินิก และแหล่งกีฬา

จากการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์โดยพิจารณาสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอาจเป็นการยาก แต่ภาพรวมที่ได้คือ หากอสังหาริมทรัพย์ของคุณให้ความสะดวกสบายได้มากเท่าไหร่ ค่าของมันก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น

วิเคราะห์ตลาดแบบเปรียบเทียบ

ให้นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ทำการวิเคราะห์ตลาดแบบเปรียบเทียบ โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างขาย ระงับการขาย ขายแล้ว ถอนจากการขาย หรือหมดระยะเวลาขายแล้ว

ตีราคาอสังหาริมทรัพย์

เพื่อความแน่ใจ อาจจ้างผู้เชี่ยวชาญมาตีราคาอสังหาริมทรัพย์ของคุณก็ได้ โดยค่าจ้างขึ้นอยู่กับขนาดและคุณสมบัติของอสังหาริมทรัพย์ ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินอสังหาริมทรัพย์แล้วประเมินตลาดและอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ที่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้ จากนั้นจะตีเป็นราคา ซึ่งอาจใช้เป็นการตีราคาตลาดจากผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพก็ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก : ddproperty.com

บทความอื่นๆน่าสนใจ

- รูปปั้นสัตว์มงคลเสริมฮวงจุ้ย
- รอบรู้เรื่อง Gift Tax เงินได้ที่ต้องเสียภาษี

- รายได้รวมโบนัส ทำให้กู้ง่ายขึ้นได้จริงหรือไม่
- 6 คำถามน่ารู้ ก่อนทาบ้านสีพาสเทล

- ไอเดียเจ๋ง เปลี่ยนกระถางแตก ให้กลายเป็นสวนขนาดเล็ก
- การซื้อขายอาคารชุดจะต้องใช้แบบสัญญาตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย
- การเลือกซื้อบ้านพร้อมอยู่
- ทำอย่างไร เมื่อผ่อนบ้านไม่ไหว ตอนจบ

- ทำอย่างไร เมื่อผ่อนบ้านไม่ไหว ตอนที่ 1
- เสริมพลังบวกคอนโดมิเนียม ด้วยการปรับห้องนั่งเล่น ตอนที่ เพิ่มพลัง
- เสริมพลังบวกคอนโดมิเนียม ด้วยการปรับห้องนั่งเล่น ตอนที่ สร้างความสุขด้วยรูปครอบครัว
- 8 จุดทำความสะอาด เสริมสิริมงคล
- ฮวงจุ้ย เมืองสามหมอก
- เทคนิคเลือกสถาบันการเงิน เพื่อกู้เงินซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม

- บัตรเครดิต มีผลต่อการยื่นกู้ซื้อคอนโดมิเนียมแค่ไหน

- วิธีลบคราบดินสอสีจากผนัง

- เคล็ดลับดูแลบ้านในหน้าฝน ให้อยู่ทน

- งบประมาณกับการซื้อบ้านใหม่

- เริ่มต้นกู้เงินซื้อบ้าน ต้องทำอย่างไร

กู้บ้านเต็ม 100% ทำได้จริงหรือ

ภาพจาก : bloglovin.com

สินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือสินเชื่อบ้านนั้นเป็นสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด ในการเป็นหนี้บ้านแม้ว่าจะมีปริมาณยอดหนี้ที่สูงมาก แต่ก็ยังดีกว่าการเป็นหนี้จากสินเชื่อหรือการกู้เงินในลักษณะอื่นๆ หลายๆ คนอยากกู้บ้านให้ได้เต็ม 100% ของมูลค่าบ้าน ซึ่งเป็นไปได้หรือไม่อย่างไรนั้น วันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณ

อยากกู้บ้านเต็ม 100% ทำได้หรือไม่
แม้ว่าตามหลักเกณฑ์การให้กู้ตามระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทยจะกำหนดเงื่อนไขในการให้สินเชื่อเอาไว้ ดังนี้

ที่อยู่อาศัยที่มีราคาซื้อขายตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ให้กู้ได้สูงสุดไม่เกิน 80% ของราคาซื้อขาย (ที่อยู่อาศัยทุกประเภท)
ที่อยู่อาศัยที่มีราคาซื้อขายต่ำกว่า 10 ล้านบาท ในกรณีห้องชุด คอนโดมิเนียม ให้กู้ได้สูงสุดไม่เกิน 90% ของราคาซื้อขาย และที่อยู่อาศัยแนวราบ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ ให้กู้สูงสุดได้ไม่เกิน 95% ของราคาซื้อขาย เห็นได้ว่าตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้นจะไม่มีทางเลยที่จะสามารถกู้ได้เต็ม 100% ของมูลค่าบ้าน แต่จากการสอบถามไปยังธนาคารพาณิชย์โดยตรงพบว่ามีธนาคารหลายแห่งที่สามารถให้กู้ได้ถึง 100% หรือมากกว่านั้น ดังนั้นการกู้บ้านเต็ม 100% จึงสามารถทำได้ด้วยการเลือกกู้กับธนาคารที่ให้กู้เต็มวงเงินนั่นเอง

ธนาคารพาณิชย์ที่ให้วงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 100% ขึ้นไป
มีธนาคารดังต่อไปนี้ ที่สามารถให้วงเงินสินเชื่อได้ตั้งแต่ 100% ของมูลค่าบ้านขึ้นไป ดังนี้

ธนาคารไทยพาณิชย์ 100%
ธนาคารทหารไทย 100%
ธนาคารธนชาติ 100%
ธนาคารยูโอบี 100%
ธนาคารทิสโก้ 100%
ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย 120%

ภาพจาก : bloglovin.com

เงื่อนไขในการกู้บ้านเต็ม 100%

บ้านใหม่ในโครงการที่ธนาคารสนับสนุน
ในการพิจารณาให้วงเงินกู้ 100-120% นั้น มีเงื่อนไขคือจะต้องเป็นการซื้อบ้านมือหนึ่ง หรือบ้านในโครงการใหม่ และซื้อตรงกับเจ้าของโครงการเท่านั้น การให้วงเงินกู้เต็มมูลค่าบ้านนี้ในแต่ละธนาคารจะจำกัดอยู่เฉพาะบ้านในโครงการของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บางเจ้าเท่านั้น ผู้ซื้อบ้านใหม่ควรสอบถามเจ้าหน้าที่ขายของโครงการว่ามีความร่วมมือด้านสินเชื่อบ้านกับทางธนาคารใดอยู่หรือไม่ หรือสามารถสอบถามยังธนาคารที่สนใจจะขอสินเชื่ออีกทางหนึ่งก็ได้
ความสามารถทางการเงินของผู้กู้
อีกปัจจัยในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อและกำหนดวงเงินกู้ก็คือความสามารถทางการเงินของตัวผู้กู้ พิจารณาจากรายได้ของผู้กู้ต้องมีมากเพียงพอที่จะผ่อนงวดชำระของวงเงินกู้ได้ โดยงวดชำระนั้นจะคิดในอัตราส่วน 6,000 บาทต่อวงเงินกู้ 1 ล้านบาท และงวดชำระนั้นจะต้องไม่เกิน 40% ของรายได้ของผู้กู้ และหากผู้กู้ยังมีภาระหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระผูกพันอยู่ก็จะทำให้ความสามารถในการแบกรับภาระหนี้ของผู้กู้สำหรับสินเชื่อบ้านนั้นน้อยกว่า 40% ลงไปอีก ทำให้สามารถผ่อนงวดชำระสินเชื่อบ้านได้น้อยลง และส่งผลต่อเนื่องไปยังวงเงินกู้ที่ลดลงด้วย

อยู่นอกเงื่อนไข แต่อยากกู้บ้านให้เต็ม 100% ได้อย่างไร

กู้ร่วม
ในกรณีที่ผู้ขอสินเชื่อซื้อบ้านในโครงการใหม่ในโครงการที่ธนาคารสนับสนุนแล้ว แต่ไม่สามารถกู้เต็ม 100% ได้ ในกรณีนี้ผู้กู้สามารถเพิ่มความสามารถทางการเงินได้ด้วยการหาผู้กู้ร่วม ซึ่งจะทำให้รายได้รวมมีมากขึ้น และแบกรับภาระหนี้ได้มากขึ้นจึงสามารถกู้ได้เพิ่มขึ้น และอาจกู้ได้ถึง 100% ก็ได้
สินเชื่อส่วนบุคคล
ในกรณีที่บ้านที่ต้องการจะซื้อเป็นบ้านมือสอง บ้านใหม่แต่อยู่นอกโครงการที่ธนาคารสนับสนุนนั้นจะไม่สามารถกู้ได้เต็ม 100% ตามเงื่อนไขของธนาคาร แต่จะสามารถกู้ได้สูงสุด 85% ของมูลค่าบ้าน ตามการประเมินของธนาคาร แต่ราคาบ้านส่วนที่เหลืออีก 15% นั้นหากผู้ซื้อต้องการกู้เพิ่มในส่วนนี้ก็ยังพอจะมีวิธีซึ่งสามารถกู้เพิ่มได้ด้วยการใช้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล แต่วิธีการนี้ทางเราไม่แนะนำให้ทำเนื่องจากสินเชื่อส่วนบุคคลนั้นจะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสินเชื่อบ้าน และผู้ซื้อที่จะกู้เพิ่มได้นั้นก็จะต้องมีความสามารถทางการเงินที่จะผ่อนสินเชื่อส่วนบุคคลด้วย โดยงวดผ่อนชำระของทั้งสินเชื่อบ้านและสินเชื่อส่วนบุคคลรวมกันแล้วจะต้องไม่เกิน 40% ของรายได้

ภาพจาก : bloglovin.com

การเลือกกู้บ้านเต็ม 100% ของมูลค่าบ้านเป็นทางออกหนึ่งสำหรับผู้ซื้อที่มีความจำเป็นที่จะต้องรักษาสภาพคล่องทางการเงินส่วนบุคคลเอาไว้ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องแลกมากับดอกเบี้ยบ้านในจำนวนที่สูงกว่าผู้ซื้อที่เลือกกู้บ้านเพียงบางส่วนเท่านั้น ดังนั้นผู้ซื้อจึงควรพิจารณาเลือกกู้ในวงเงินที่เหมาะสมกับความสามารถทางการเงิน และพฤติกรรมทางการเงินของตนเอง

ขอบคุณบทความจาก : ddproperty.com

บทความอื่นๆน่าสนใจ

- บัตรเครดิต มีผลต่อการยื่นกู้ซื้อคอนโดมิเนียมแค่ไหน

- วิธีลบคราบดินสอสีจากผนัง

- เคล็ดลับดูแลบ้านในหน้าฝน ให้อยู่ทน

- งบประมาณกับการซื้อบ้านใหม่

- เริ่มต้นกู้เงินซื้อบ้าน ต้องทำอย่างไร

เทคนิคกำจัดกลิ่นในห้องชุด

ห้องชุดของเราชุดเมื่ออยู่ไปนานๆ ก็อาจเกิดกลิ่นอับหรือกลิ่นเหม็นรบกวน ไม่ว่าจะกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้า กลิ่นอับจากโซฟา หรือแม้แต่กลิ่นเหม็นสีที่ทาเสร็จใหม่ๆ กลิ่นเหล่านี้นอกจากจะสร้างความไม่สบายใจให้กับเจ้าของห้องชุดแล้ว ยังมีผลเสียต่อสุขภาพของผู้อาศัยในห้องชุด อีกด้วยครับ วันนี้ CMC Group มีวิธีกำจัดกลิ่นในห้องชุดโดยใช้สิ่งของที่หาได้รอบตัวเรามาฝากกัน

1. นำข้าวสารมาโรยทั่วบริเวณที่เปียกชื้น แล้วนำกระดาษหนังสือพิมพ์มาปิดไว้ประมาณ 1 คืน

2. กลิ่นเหม็นไหม้ กลิ่นที่เกิดจากการทำอาหารส่งกลิ่นเหม็นไหม้ ให้ฝานมะนาวลงหม้อแล้วต้ม เพราะกลิ่นของมะนาวจะช่วยกำจัดกลิ่นไหม้และกลิ่นที่ตกค้างในห้องได้เป็นอย่างดี

3. กลิ่นอับในตู้เสื้อผ้า ให้เปิดตู้เสื้อผ้าทิ้งไว้ เพื่อให้มีอากาศถ่ายเท แล้วนำขวดน้ำหอมที่ใช้หมดแล้ววางไว้ในตู้เสื้อผ้า เพื่อช่วยให้กลิ่นหอมบางๆติดเสื้อผ้าได้

4. เพิ่มกลิ่นหอมในห้องน้ำด้วย กลิ่นจากสบู่หอม ให้เลือกกลิ่นที่ชอบใส่จานวางไว้ในห้องน้ำ เพราะกลิ่นของสบู่จะช่วยเพิ่มความสดชื่นได้

5. กลิ่นห้องที่ทาสีเสร็จใหม่ๆ สามารถใช้เทียนไขกำจัดสีได้ ให้จุดเทียนในจานเล็กๆ วางไว้ในถาดแล้วใส่น้ำจนเต็ม เพื่อป้องกันเทียนล้มและเกิดลุกไหม้

6. ใช้ถ่านดูดกลิ่น ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอับชื้นในห้อง หรือในตู้เสื้อผ้า ให้นำถ่านมาใส่ถ้วยแล้ววางทิ้งไว้ เพื่อช่วยลดกลิ่นอับชื้น

7. เบกกิ้งโซดา สามารถใช้เพื่อช่วยลดกลิ่นในรองเท้าได้ เพียงแค่โรยเบกกิ้งโซดาไว้ในรองเท้าแล้วนำใส่กล่องประมาณ 1 คืน ก็จะช่วยลดกลิ่นอับชื้นได้

8. กระดาษหนังสือพิมพ์ หมึกของกระดาษหนังสือพิมพ์ช่วยดูดกลิ่นอับชื้นในรองเท้าให้หายไปได้ หรือสามารถนำกระดาษหนังสือพิมพ์มาเช็ดกระจกให้ใสได้

แหล่งข้อมูล นิตยสาร The Condominium, bloggang.com

บทความอื่นๆน่าสนใจ

- บัตรเครดิต มีผลต่อการยื่นกู้ซื้อคอนโดมิเนียมแค่ไหน

- วิธีลบคราบดินสอสีจากผนัง

- เคล็ดลับดูแลบ้านในหน้าฝน ให้อยู่ทน

- งบประมาณกับการซื้อบ้านใหม่

- เริ่มต้นกู้เงินซื้อบ้าน ต้องทำอย่างไร